xs
xsm
sm
md
lg

“ธาริต” สั่งแยกสำนวนสอบสวนคดี 38 แกนนำ กปปส.แถไม่กลั่นแกล้ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
DSI-สตช.-อัยการ ร่วมทำคดีแกนนำ 38 คน ระบุแยกคดีผู้ต้องหาทั้ง 38 คน เป็นรายคดีแต่ละคน ชี้ไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะเป็นการทำงานร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย

ที่อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ค วันนี้ (23 ธ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อันประกอบด้วย พนักงานสอบสวนของ DSI พนักงานสอบสวนของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดย พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร เป็นหัวหน้าคณะ และพนักงานอัยการของสำนักงานอัยการสูงสุด โดย นายมั่นเกียรติ ธนวิจิตรพันธ์ เป็นหัวหน้าคณะ โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาในวาระสำคัญว่า ในขณะนี้ได้ดำเนินการกำหนดแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาที่เป็นแกนนำตั้งแต่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กับแกนนำหลักรวมทั้งสิ้น 38 คน ซึ่ง นายสุเทพ ศาลได้อนุมัติหมายจับไว้แล้ว ส่วนแกนนำอีก 37 คน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหาแล้ว

นายธาริต กล่าวว่า ที่ประชุมได้กำหนดแยกสำนวนคดีออกเป็น 38 สำนวน ตามผู้ต้องหาทั้ง 38 คน โดยมุ่งเน้นการสอบสวนไปที่พฤติกรรมของการกระทำความผิดในลักษณะต่อเนื่องเกี่ยวพัน เชื่อมโยงกัน มีเจตนาร่วมกันกระทำความผิด แล้วแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งพยานหลักฐานมีความชัดเจนเพียงพอต่อการแจ้งข้อหาทั้ง 38 คน และหลังจากนี้จะมุ่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะเมื่อได้สำเนาการเดินบัญชีธนาคาร (STATEMENT) ย้อนหลัง 6 เดือน จากทุกบัญชีทุกธนาคารมาเพื่อวิเคราะห์ความเชื่อมโยงทางการเงินไปกับบุคคลอื่นและกลุ่มทุน (ท่อน้ำเลี้ยง) เพื่อขยายผลการสอบสวนอีกต่อไป

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่าการสอบสวนจะเป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพราะทำงานร่วมกันถึง 3 องค์กร จะไม่มีการกลั่นแกล้งหรือช่วยเหลือกันเป็นอันขาด เนื่องจากขณะนี้ปรากฏมีกลุ่มคนได้กระทำความผิดต่อกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง โดยมีแนวโน้มจะร่วมกันกระทำความผิดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนของ สตช. เพราะยังไม่ได้กำหนดให้เป็นคดีพิเศษ ตนจึงได้ประสานงานกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลดำเนินการในความรับผิดชอบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น