xs
xsm
sm
md
lg

จับตาตั้ง“นายพันสีกากี” ช่วยโกงเลือกตั้ง 2 ก.พ.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สน.พระอาทิตย์ / สามยอด

แม้จะยังไม่ประกาศเลื่อนการแต่งตั้งสีกากีระดับ“นายพัน”อย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มการแต่งตั้งตำรวจระดับสารวัตร(สว.) ถึงรองผู้บังคับการ(รองผบก.) วาระประจำปี 2556ที่เดิมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ขยับกรอบเวลาให้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2556 ก็น่าจะขยายออกไปอีกหนึ่งเดือนหรือถึงวันที่ 31 ม.ค.2557


หลังจากพล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล(ผบช.สกพ.) ทำหนังสือเตรียมเสนอพล.ต.อ.อดุลย์แสงสิงแก้ว แม่ทัพใหญ่ นำเรื่องขออนุมัติ ก.ตร. ขยายเวลาการแต่งตั้งออกไปด้วยเหตุผลตำรวจจากหลายกองบัญชาการต่างๆ มีภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยรวมทั้งสถานการณ์บ้านเมืองยังคงมีความวุ่นวาย

พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ อธิบายเหตุผลขออนุมัติขยายเวลาการแต่งตั้งเพิ่มเติมเอาไว้ว่า จากเดิมก.ตร.อนุมัติกรอบเวลาไว้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2556 เท่านั้นแต่ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ดำเนินการทำบัญชีแต่งตั้งซึ่งหากสั่งการคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 20 วันซึ่งนับจากวันนี้ก็ไม่สามารถทำได้ทัน

“ในเบื้องต้นจะขยายเวลาออกไปถึงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้าแต่อาจทำการแต่งตั้งเสร็จก่อนก็ได้หรือหากมีเหตุจำเป็นการขยายเวลาออกไปอีกก็เป็นไปได้เช่นกัน”

มิหนำซ้ำพล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ยังรีบออกตัวไว้ก่อนว่า แม้อยู่ในห้วงยุบสภาและมีรัฐบาลรักษาการแต่การแต่งตั้งระดับสว.-รองผบก. สามารถทำได้เนื่องจากการแต่งตั้งระดับนี้เป็นอำนาจของผู้บัญชาการ(ผบช.)-ผู้บังคับการ(ผบก.)ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ไม่เกี่ยวกับอำนาจรัฐมนตรีแต่การดำเนินการแต่งตั้งในช่วงนี้หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยกองบัญชาการต่างๆ

เปิดช่องส่งสัญญาณแทงกั๊กกันอย่างชัดเจนแบบมีนัยยะขนาดนี้ แม้การแต่งตั้งตำรวจระดับนายพันจะขยายออกไปถึง 31 ม.ค.ปีหน้าเพราะไม่ทันปีนี้ตามเงื่อนเวลาที่ผู้บัญชาการสำนักงากำลังพลอ้างไว้ต้องใช้เวลาดำเนินการ20 วัน

แต่ไม่น่าเกินวันที่15 ม.ค. การแต่งตั้งสว.-รองผบก.ทุกอย่างคงเสร็จสิ้นเรียบร้อย

เหตุผลที่เชื่อว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นไม่เกินครึ่งเดือนแรกของปีหน้าเงื่อนหนึ่งและน่าจะเป็นเงื่อนสำคัญ คือ การเลือกตั้งใหญ่ ส.ส.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศวันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557หลังจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบสภาลงไป

ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งไม่ว่าระดับใด ประเภทไหน ยิ่งโดยเฉพาะการเลือกตั้ง ส.ส.หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญระดับประเทศ เนื่องจากจำนวนส.ส.จะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล กำหนดนโยบายการบริหารประเทศ

ตำรวจถือเป็นกลไกลสำคัญที่ถูกมองว่าเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียในการเลือกตั้งเกือบทุกพื้นที่เพราะตำรวจมีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทยหากตำรวจใช้กฎหมายที่อยู่ในมือดำเนินการสิ่งหนึ่งสิ่งใดต่อหัวคะแนนต่อผู้นำท้องถิ่นความได้เปรียบก็จะตกอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง

เช่นในอดีตที่ผ่านมามีข่าวเรื่องการบล็อกหัวคะแนนไม่ให้ขยับหัวคะแนนก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวในพื้นที่ได้ถนัด การชักจูงการระดมเสียงให้เลือกผู้สมัครที่ตัวเองสนับสนุนก็จะลดน้อยถอยลง

ดังนั้น เชื่อว่าเมื่อการเลือกตั้งถูกกำหนดขึ้นในวันที่2 ก.พ.การแต่งตั้งโยกย้ายยตำรวจก็ต้องใหเสร็จสิ้นก่อนอย่างน้อย 15 วันเพื่อให้ตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งลงไปในพื้นที่สามารถลงไปดำเนินนการสร้างความได้เปรียบให้กับฝ่ายที่ตัวเองสนับสนุนหรือตอบแทนผุ้ที่สนับสนุนให้มาดำรงตำหน่ง

การแต่งตั้งระดับ “นายพัน” ตำแหน่ง “สว.-รองผบก.”ทั่วประเทศประจำปีครั้งนี้ จึงเป็นที่น่าจับตาอย่างมาก โดยเฉพาะเก้าอี้ผกก. หรือผู้กำกับการ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งระดับหัวหน้าหน่วยงานหัวหน้าโรงพักที่จะมีอำนาจในแต่ละพื้นที่เพราะหากได้รับการแต่งตั้งลงพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือพื้นที่ความมั่นคงแล้ว ความได้เปรียบทางการเมืองของบางกลุ่ม บางฝ่ายก็มีสูงขึ้น

และเชื่อว่ารัฐบาลที่แม้จะอยู่ในฐานะรัฐบาลรักษาการ แต่ก็ยังคงกุมอำนาจรัฐอยู่น่าจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อชิงความได้เปรียบการเลือกตั้งในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจครั้งนี้อย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ในระดับผู้บริหารที่ใกล้ชิดประชาชน ผู้บัญชาการ(ผบช.)แต่ละพื้นที่ก็ล้วนมีสสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับขั้วรัฐบาลไล่เรียงตังแต่ กรุงเทพมหานคร(กทม.) มีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นั่งเก้าอี้ผบช.น. ซึ่งสายสัมพันธ์ระดับได้ฉายา “มีวันนี้เพราะพี่ให้”คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ

บช.ภ.1 รับผิดชอบพื้นที่ปริมณฑลและภาคกลางมีพล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ นั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.1เป็นเพื่อนร่วมรุ่นในการอบรมหลักสูตรผู้บริหารกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ บช.ภ.2 รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกมีพล.ต.ท.กวี สุภานันท์ นั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.2ดีกรีสายตรงพ.ต.ท.ทักษิณ บช.ภ.3รับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง มีพล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา นั่งเก้าอี้ผบช.ภ.3 เคยเป็นอดีตนายเวรพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี บช.ภ.4รับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานตอนบน มีพล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง นั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.4เคยทำคดีคนเสื้อแดงจนเป็นที่ได้รับความไว้วางใจให้มาคุมถิ่นคนเสื้อแดง

บช.ภ.5 รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือมีพล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา นั่งผบช.ภ.5สนิทสนมกับพ.ต.ท.ทักษิณ และเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เพื่อไทยพี่สายพ.ต.ท.ทักษิณ จนได้รับความไว้วางใจให้คุมภาคเหนือมาแล้ว 2 ปี บช.ภ.6รับผิดชอบภาคกลางตอนบนและภาคเหนือตอนล่าง มีพล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร นั่งเก้าอี้ผบช.ภ.6เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.

บช.ภ.7 รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันตกมีพล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ นั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.7เป็นลูกน้องใกล้ชิดพล.ต.อเพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. บช.ภ.8 รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนบนมีพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น นั่งเก้าอี้ผบช.ภ.8ได้รับการชื่นชมจากพ.ต.ท.ทักษิณอย่างมมาก บช.ภ.9รับผิดอบพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง มีพล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ นั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.9 เป็นนรต. 32 รุ่นเดียวกับพล.ต.ท.วินัย ทองสองผู้ช่วย ผบ.ตร.หลานเขยคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณ และศชต.รับผิดชอบพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีพล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช นั่งเก้าอี้ ผบช.ศชต.เป็นตำรวจที่ได้รับความไว้วางใจจากพล.ต.อ.อดุลย์อย่างมาก

ทุกเก้าอี้ทุกขุมกำลังระดับผู้บังคับบัญชาหน่วย ล้วนใกล้ชิดกับขั้วการเมืองฝ่ายทักษิณอย่างแนบแน่นในทุกพื้นที่และถูกกระจายคลอบคลุม ดังนั้นในการแต่งตั้งระดับสว.-รองผบก.ที่ถือเป็นฝ่ายปฏิบัติหากการเมืองส่งคนใกล้ชิดลงมาคุมกำลังอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว

ความได้เปรียบในการเลือกตั้งส.ส.ที่จะเกิดขึ้น ก็ง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปาก
กำลังโหลดความคิดเห็น