xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.เพื่อไทยร้องดีเอสไอเอาผิด 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ส.ส.เพื่อไทยร้องดีเอสไอเอาผิด 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยการแก้ไขที่มาของ ส.ว.ขัดกับรัฐธรรมนูญ อ้างอาจจะเข้าข่ายก้าวล่วงพระราชอำนาจ ตามมาตรา 112 และเป็นกบฏตามมาตรา 113 ตามประมวลกฎหมายอาญา

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 พ.ย. นายสุนัย จุลพงศธร นายวรชัย เหมะ นพ.แหวง โตจิราการ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง เข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อยืนหนังสือร้องทุกข์ต่อดีเอสไอให้ดำเนินคดีต่อคณะตุลการการศาลรัฐธรรมเสียงข้างมาก 5 คน ที่วินิจฉัยในประเด็นการแก้ไขที่มาของ ส.ว.ขัดกับรัฐธรรมนูญ อ้างอาจจะเข้าข่ายก้าวล่วงพระราชอำนาจ ตามมาตรา 112 และเป็นกบฎตามมาตรา 113 ตามประมวลกฎหมายอาญา เบื้องต้นดีเอสไอรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พวกตนเป็นตัวแทนของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล มายื่นเรื่องให้อธิบดีดีเอสไอสืบสวนสอบสวนศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ท่าน ได้กระทำการก้าวล่วงพระราชอำนาจโดยไม่บังควรและไม่มีหลักกฎหมายมรองรับ สืบเนื่องจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขที่มาของ ส.ว.ที่ผ่านกระบวนการการประชุมรัฐสภาทุกขึ้นตอนตามมาตรา 291 (7) รัฐธรรมนูญ ที่กำหนดไว้อย่างเดียวให้นายกรัฐมนตรี นำร่างขึ้นกราบบังคมพระกรุณาวินิจฉัยเป็นการส่วนพระองค์ เมื่อนายกฯ มีการยื่นทูลเกล้าฯ ไปแล้วทำไมศาลรัฐธรรมนูญจึงมีการก้าวล้วงพระราชอำนาจส่วนพระองค์โดยเฉพาะ ซึ่งได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นกัน พวกตนเห็นว่าศาลรัฐธรรมอาจจะกระทำขัด มาตรา 8 รัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการระผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ จึงมาให้ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนว่าศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ท่าน กระทำการอันมิบังควร

นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะตุลาการทั้ง 5 ท่าน กระทำการเข้าข่ายตาม มาตรา 291 (7) รัฐธรรมนูญ เมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว.ได้ผ่านวาระ 3 ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นภาคบังคับไม่มีกฎหมายอะไรที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญแทรกแซง แสดงว่าการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะเข้าข่ายก้าวลวงพระราชอำนาจ ตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา จึงมาร้องขอให้อธิบดีดีเอสไอดำเนินการรับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษโดยเร็ว

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า มีการยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอเพื่อให้ดำเนินคดีกับคณะตุลาการ 5 คน เสียงข้างมาก ที่วินิจฉัยในประเด็นการแก้ไขที่มาของ ส.ว.ขัดกับรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 112 มาตรา 113 ประมวลกฎหมายอาญา ตนมี 8 ประเด็นที่จะแถลงคือ 1. เมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษร้องทุกข์ ดีเอสไอมีหน้าที่ต้องนำเสนอเข้าคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) 2. ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ยกเว้นเฉพาะพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ษานุวงศ์เท่านั้น 3. การกล่าวหาครั้งนี้เป็นการกล่าวหาต่อตัวบุคคลคือตุลาการ 5 คน ไม่ใช่องค์กรศาลรัฐธรรมนูญ

4. การสั่งคำร้องที่ 29/2556 ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นข้อเท็จจริงและกรณีเดียวกันทั้งเรื่อง ซึ่งองค์คณะตุลาการทั้ง 5 คน ได้ลงชื่อยกคำร้องโดยอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณา จึงเป็นประเด็นว่าทำไมปฏิบัติไม่เหมือนกัน 6. หลังจากองค์คณะตุลาการทั้ง 5 อ่านคำพิพากษา ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุไต่สวน อาจนำไปสู่การดำเนินการในการชี้มูลความผิดทางอาญา ดีเอสไอจึงต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ไม่ให้ผลเกิดการสับสนวุ่นวายต่อสังคม 7. อธิบดีดีเอสไอ จะเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเองมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน 8. หากการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ จะนำเข้า กคพ.ในวัน 27 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.เพื่อพิจารณาเป็นคดีพิเศษ

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา มอบอำนาจให้นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความ เดินทางเข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษและให้ดำเนินคดีต่อองค์คณะผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมทั้ง 5 คนในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้านนายธาริตกล่าวว่า ตนจะรับเรื่องดังกล่าวไว้รวมกับที่มีกลุ่มคนมาร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีดังกล่าวอีก 2 ราย ทั้งนี้ตนได้แต่งตั้งพนักงานสอบสวนเรื่องนี้แล้วและจะเร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด









กำลังโหลดความคิดเห็น