กมธ.นิรโทษฯ ยังไม่มีความคืบหน้าใช้เวลาในการหารือ ในที่ประชุมถึง 7 ครั้ง ในขณะที่กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล ยืนยันให้มีการนิรโทษทุกคดีทั้งเหตุการณ์ ขณะที่กรรมาธิการฝ่ายค้านยืนยันว่าไม่ควรนิรโทษกรรมให้กับคดีทางอาญา
วันนี้ (3 ต.ค.) การประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. ... ที่มี นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน โดยคณะกรรมาธิการสอบถามความคืบหน้าการทวงข้อมูลคดีที่เกี่ยวข้องทางการเมืองจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งได้รับข้อมูลจาก 4 หน่วยงาน คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ป.ป.ช.และกรมราชทัณฑ์ แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลจาก ศาล และอัยการ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาในคณะกรรมาธิการ
โดย นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ เสนอให้ที่ประชุมเริ่มพิจารณามาตรา แม้ยังได้รับข้อมูลที่ไม่ครบ เพราะใช้เวลานานในการหารือ และยังไม่สามารถเข้าสู่เนื้อหา ในขณะที่ประชาชนที่ติดคุกไม่ได้รับความยุติธรรม และรอการนิรโทษกรรมอยู่ แต่ กรรมาธิการที่เป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง มองว่าควรรอให้ข้อมูลครบถ้วนก่อนเริ่มพิจารณามาตรา 1 แม้จะเริ่มพิจารณาแต่เมื่อได้ข้อมูลไม่ครบก็จะก่อให้เกิดความล่าช้าอยู่ดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า ไม่ติดใจกรณีข้อมูลไม่ครบ แต่ติดใจประเด็นกรณีกรอบกฎหมายที่ร่างมามีความไม่ชัดเจน อาทิ การเทียบเคียงการนิรโทษกรรมครั้งนี้กับการนิรโทษกรรมในอดีต ซึ่งไม่สามารถเทียบเคียงกับเหตุการณ์ใดๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการนิรโทษกรรมจากการยึดอำนาจ การก่อความไม่สงบ หรือนิรโทษกรรมตัวบุคคล เนื่องจากเหตุการณ์ในอดีตเกิดขึ้นในระยะสั้น และไม่เป็นคดีทางอาญา การประทุษร้าย หรือการทำลายทรัพย์สิน นอกจากนี้ กฎหมายยังเขียนไว้กว้าง นิรโทษกรรมแก่ประชาชนแต่ไม่นิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ ถือว่าไม่ยุติธรรมกับเจ้าหน้าที่ที่ถูกกระทำ ซึ่งมองว่าหากผ่านกฎหมายไปจะเป็นกฎหมายที่ถือปฏิบัติยาก และอาจจะเกิดกรณีแอบอ้างที่นำคดีอาญาอื่นๆ มาโยงว่าเกี่ยวกับการเมือง
กรรมาธิการที่เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายสุนัย จุลพงศธร นายสงวน พงษ์มณี นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ยังคงยืนยันว่าควรที่จะนิรโทษกรรมทั้งเหตุการณ์ ไม่มีการยกเว้น ทำให้นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมาธิการ คัดค้านว่าไม่ควรนิรโทษกรรมทุกคดี ตลอดทั้งเหตุการณ์ เพราะไม่มีที่ใดในโลกที่จะยกโทษได้ทั้งหมด สอดคล้องกับผู้นำฝ่ายค้าน ที่กล่าวว่า ไม่สามารถยอมรับให้มีการนิรโทษกรรมกับคดีที่จงใจจับอาวุธตั้งใจประทุษร้ายบุคคล เพราะถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีทางการเมือง ทั้งนี้สหประชาชาติเคยเตือนไม่ให้มีการนิรโทษกรรมให้กับคดีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงควรมีการวางกรอบใหม่จะทำให้เดินหน้าพิจารณากฎหมายฉบับนี้ได้
