ม็อบโค่นทักษิณ ยื่นศาลแพ่งให้สั่งเพิกถอน พ.ร.บ.มั่นคงฯ ระบุม็อบไม่ใช้ความรุนแรง ชุมนุมโดยสงบตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นศาลรับคำร้องไว้และกำหนดวันนัดสืบพยาน 23 ธ.ค.นี้
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และนายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ผู้ประสานงานกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. ซึ่งชุมนุมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 และสวนลุมพินี ได้ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี (ครม.), นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ผอ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และมีอำนาจออกประกาศเรื่องพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 9 ต.ค. 2556 และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องกระทำความผิดรัฐธรรมนูญ ต่อการละเมิดสิทธิการชุมนุม
กรณีเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2556 นายนิวัฒน์ธำรง จำเลยที่ 2 โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำเลยที่ 1 ได้ออกประกาศเรื่องพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เนื้อหาส่วนหนึ่งว่า "ด้วยปรากฏว่าสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองและการชุมนุมเพื่อเรียกร้องความต้องการตามแนวทางและผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มในขณะนี้ ได้กำหนดรูปแบบการชุมนุมเพื่อให้มีการระดมคนจำนวนมาก หรือมีการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลและสถานที่ใกล้เคียง เพื่อขัดขวางการใช้อำนาจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล หรือการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรนิติบัญญัติซึ่งอยู่ในระหว่างสมัยประชุมรัฐสภา" ซึ่งเป็นการออกประกาศที่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของโจทก์ จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยตามคำขอ 5 ข้อ
1. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งยกเลิกเพิกถอนประกาศ เรื่องพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ของโจทก์ที่ 1
2. ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกาศ เรื่องการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
3. ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
4. ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกเพิกถอนประกาศ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยฉบับที่ 1/2556 เรื่องห้ามบุคคลเข้าหรือออกจากบริเวณพื้นที่ อาคารหรือสถานที่ที่กำหนด
5. ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกเพิกถอนประกาศ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียนร้อยฉบับที่ 2 เรื่อง ห้ามใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ โดยศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 4239/2556 และนัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 23 ธ.ค.นี้เวลา 09.00 น.
ภายหลังนายแพทย์ระวีกล่าวว่า กองทัพธรรมและกลุ่ม กปท.ได้ตัดสินใจยื่นฟ้องรัฐบาลเนื่องจากรัฐบาลออก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยอ้างสาเหตุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเคยเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเรียบร้อย แต่ตั้งแต่ชุมนุมมาผู้ชุมนุมไม่เคยแสดงออกถึงความรุนแรงแต่อย่างใด โดยมีการประกาศในกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างชัดเจนว่า หากตำรวจพบบุคคลที่พกพาอาวุธ ก็สามารถจับกุมได้ทันที เพราะถือว่าไม่ใช่กลุ่มผู้ชุมนุม อีกทั้งรัฐบาลได้อ้างเรื่องการเยือนประเทศไทย ของนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเรื่องนี้ทาง กปท.ได้ประกาศชัดเจนว่ายินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาล โดยการไม่ก่อความวุ่นวาย เหมือนกรณีความรุนแรงที่พัทยา เมื่อปี 2552 แต่รัฐบาลก็ยังประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยขัดขวางการใช้สิทธิและปิดกั้นไม่ให้คนเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลและห้ามการส่งน้ำ อาหารให้กับผู้ชุมนม และไม่ให้รถสุขาเข้ามาในพื้นที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยมิชอบ เพราะการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ต้องมีเงื่อนไขที่ถูกต้อง ทั้งนี้การยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งครั้งนี้ ไม่ได้ขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว แต่เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการชุมนุมครั้งต่อๆ ไป