ศาลอาญายกคำร้องถอนประกัน “ไทกร-พิเชฐ-สมบูรณ์” ขึ้นเวทีปราศรัยม็อบต้านทักษิณ-พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ชี้ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ยังไม่ผิดเงื่อนไขศาล
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน ที่พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวน นายพิเชฐ พัฒนโชติ คณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.), นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.และนายไทกร พลสุวรรณ คณะเสนาธิการร่วม กปท. จำเลยที่ 20, 21 และ 25 คดีร่วมกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ก่อการร้ายปิดล้อมสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณ ปี 2551 เพื่อพิจารณาว่าจำเลยทั้งสามมีพฤติการณ์กระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของศาลหรือไม่ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4-5 ส.ค. 2556 นายไทกร, นายพิเชฐ และนายสมบูรณ์ แกนนำ กปท.ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่บริเวณลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 และพื้นที่บางส่วนภายในบริเวณสวนลุมพินี โดยโจมตีรัฐบาลอย่างรุนแรง รวมทั้งการคัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำนองว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อยู่ภายใต้การครอบงำของระบอบทักษิณ มุ่งแต่คอร์รัปชัน คิดแต่ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้รอดคดี โดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรม
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้องแล้ว แม้จะได้ความในชั้นนี้ว่าในวันที่ 4-5 ส.ค. 56 จำเลยที่ 20, 21 และ 25 ได้กล่าวปราศรัยต่อผู้ชุมนุม ที่ร่วมชุมนุมในพื้นที่บริเวณลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เกี่ยวกับเรื่องการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ และระบอบทักษิณ โดยไม่ได้ขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ซึ่งขณะนั้นรัฐบาลได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ตั้งแต่วันที่ 1-10 ส.ค. 56 แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวก็ไม่ปรากฏว่าเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองที่เห็นได้จากกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงนามคำสั่งให้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในวันที่ 8 ส.ค.ซึ่งเป็นการยกเลิกก่อนครบกำหนดการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว เป็นเวลา 2 วัน เนื่องจากไม่พบเหตุการณ์ที่เป็นผลกระทบต่อความมั่นคง ซึ่งสอดคล้องกับคำเบิกความของ ร.ต.ท.พลกฤต ทิพย์ทัศนัน พยานผู้ร้อง ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์การชุมนุม ของกลุ่ม กปท.ว่าไม่เห็นกลุ่มผู้ชุมนุมมีอาวุธติดตัวมาด้วย ดังนั้นจึงเห็นว่าการชุมนุมของกลุ่ม กปท.เป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งประชาชนมีเสรีภาพที่จะกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญฯ 2550
แม้ปรากฏข้อเท็จจริงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใช้พื้นที่ของสวนลุมพินี โดยไม่ได้รับอนุญาตก็เป็นเรื่องที่จะต้องไปดำเนินการในส่วนกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป กรณีจึงไม่อาจถือว่าเป็นการผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ในการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสาม เมื่อยังไม่ปรากฏข้อเท็จที่จะแสดงว่าจำเลยทั้งสามกระทำการใดที่มีลักษณะเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดมเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือ อาจก่อให้เกิดภัยอันตรายใดๆ ที่กระทบต่อความเสียหาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ที่จะเป็นการผิดเงื่อนไขซึ่งศาลกำหนดไว้ ดังนั้นในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวของจำเลยทั้งสาม จึงให้ยกคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ศาลอ่านคำสั่งให้จำเลยทั้งสามฟังแล้ว ศาลยังได้กำชับด้วยวาจากับจำเลยทั้งสามว่า แม้ศาลจะมีคำสั่งยกคำร้องแต่ขอให้พึงสังวรว่าอย่ากระทำการใดๆ ที่จะเป็นการผิดต่อเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวของศาล ซึ่งจำเลยทั้งสามได้กล่าวตอบรับศาล ภายหลังฟังคำสั่งแล้ว กลุ่มมวลชนประมาณ 20 คน ที่เดินทางมาให้กำลังใจได้นำดอกกุหลาบมามอบให้นายไทกร นายพิเชษฐ และนายสมบูรณ์ ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น
ภายหลังนายพิเชฐเปิดเผยว่า คำสั่งของศาลเป็นบรรทัดฐานว่าผู้ที่มีคดีเกี่ยวกับการเมืองสามารถที่จะขึ้นเวทีปราศรัยได้ แต่ต้องระมัดระวังการพูด ไม่ให้ผิดเงื่อนไขศาล โดยศาลได้กำชับว่าคดีที่ตนทั้งสามถูกดำเนินคดีมีอัตราโทษสูง เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังคำพูดให้มากยิ่งขึ้น
ด้านนายไทกรได้ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวถูกปลดจากเป็นโฆษก กปท. โดยระบุเพียงว่าเป็นความคลาดเคลื่อนของการนำเสนอข่าว ซึ่งความจริงตำแหน่งโฆษก กปท.ไม่มีอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับการได้รับมอบหมายจากแกนนำให้เป็นผู้แถลงข่าวเท่านั้น ขณะที่การทำหน้าที่แถลงข่าวที่ผ่านมาตนก็ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยื่นฟ้องร่วม 13 คดี