xs
xsm
sm
md
lg

อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บ.พีซีซี-ผู้บริหาร” สร้างโรงพัก 396 แห่ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
อัยการเผยสั่งไม่ฟ้อง “บ.พีซีซี-ผู้บริหาร” คดีฉ้อโกง-ฮั้วประมูล ทุจริตก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ ชี้เป็นเรื่องสัญญาแพ่ง ไม่ผิดทางอาญาและไม่มีเจตนาฉ้อโกง ขณะที่ขั้นตอนประมูลอีอ็อกชั่นของ สตช.ถูกต้อง และเสนอราคาไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ของ ก.คลัง

วันนี้ (14 ต.ค.) นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงการพิจารณาสั่งคดีฉ้อโกงและฮั้วประมูล ที่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นต์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด พร้อมพวกผู้บริหาร ตกเป็นผู้ต้องหา ในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สรุปสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องให้พนักงานอัยการคดีพิเศษว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นสำนวนคดีฉ้อโกงและฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ เนื่องจากเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งในวันนี้ และยังไม่ทราบรายละเอียดจึงขอตรวจสอบสำนวนคดีก่อนอีกครั้ง

แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า สำหรับสำนวนคดีฉ้อโกงที่ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นต์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด, นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานบริษัท พีซีซี, นายวิศณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการบริษัท พีซีซี และนายจตุรงค์ อุดมสิทธิกุล กรรมการบริษัท พีซีซี ผู้ต้องหาที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงเงินค่าก่อสร้างผู้รับเหมาช่วง ในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ จำนวนกว่า 90 ล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 นั้น อัยการฝ่ายคดีพิเศษได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากทางอัยการพิจารณาสำนวนแล้วมีความเห็นว่า คดีดังกล่าวทางผู้รับเหมาช่วงได้เข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า ไม่ได้รับเงินค่าจ้างและเงินค่าดำเนินการต่างๆ จากบริษัท พีซีซี ซึ่งอัยการได้พิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นการหลอกลวง แต่เป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง เนื่องจากบริษัท พีซีซี ไม่จ่ายเงินให้ผู้รับเหมาช่วงตามงวดสัญญา ทำให้ผู้รับเหมาช่วงไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างสถานีตำรวจให้เสร็จสิ้นได้ และบริษัทพีซีซีฯ ก็เคยเป็นผู้รับเหมาและมีประวัติการทำงานก่อสร้างโครงการใหญ่มาก่อน เห็นว่าบริษัท พีซีซี ไม่มีเจตนาฉ้อโกงและไม่มีมูลทางคดีอาญาจึงสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว

ส่วนสำนวนคดีฮั้วประมูล ที่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นต์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด, นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานบริษัท พีซีซี และ นายวิศณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการบริษัท พีซีซีฯ ผู้ต้องหาที่ 1-3 ในข้อหา โดยทุจริตร่วมกันเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐโดยรู้ว่าราคานั้นต่ำมากเกินกว่าปกติ (ต่ำกว่าราคากลาง 540 ล้านบาท) จนเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นไปตามลักษณะสินค้า หรือบริการ หรือเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่หน่วยงานของรัฐสูงกว่าความเป็นจริงตามสิทธิที่จะได้รับ โดยมีวัตถุประสงค์เป็นการกีดกันการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมและการกระทำเช่นว่าเป็นเหตุให้ไม่สามารถปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญาได้ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 8 นั้น

โดยอัยการฝ่ายคดีพิเศษก็ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการประมูลโดยวิธี อี-ออกชัน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการประมูลอย่างถูกต้องและมีการแข่งขันราคากันหลายครั้ง ส่วนที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษระบุว่า บริษัท พีซีซี เสนอราคาต่ำกว่าความเป็นจริงมากเกินกว่าปกตินั้น ก็ไม่ปรากฏว่าการเสนอราคาต่ำมามากจนเกินไปและต่ำกว่าเกณฑ์ของกระทรวงการคลังแต่อย่างใด

แหล่งข่าวระบุอีกว่า ส่วนกรณีที่ดีเอสไอจะมีความเห็นแย้งหรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องของความคิดเห็น ทั้งนี้ หากดีเอสไอเห็นพ้องด้วยกับอัยการคดีก็ถือว่าเป็นอันสิ้นสุด แต่หากดีเอสไอมีความเห็นแย้ง ก็จะต้องส่งเรื่องให้ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด เป็นผู้ชี้ขาดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น