แม่ นร.สาววัย 17 โร่ร้องปวีณาฯ ขอความเป็นธรรม หลังลูกสาวเสียชีวิตปริศนาในบ้านผู้ชายที่รู้จักทางเฟซบุ๊กแค่ 2 เดือน คาดถูกฆาตกรรม ขณะที่ผู้ที่ล่อลวงไปมีอาชีพเป็น รปภ.และหลังเกิดเหตุได้ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำจนต้องส่งโรงพยาบาล ยังไม่สามารถสอบปากคำได้
วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 84/14 หมู่ 2 ถ.รังสิต-นครนายนก (คลอง 7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางกรรณิกา ประกอบสุข อายุ 35 ปี ชาว จ.ชลบุรี มารดา น้องเตย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าบุตรสาวได้รู้จักกับชายผ่านทางเฟซบุ๊กได้ประมาณ 2 เดือน และถูกหลอกว่าจะพาไปพบแม่เพื่อทำความรู้จักกับครอบครัว ต่อมาเสียชีวิตปริศนา คาดเป็นการฆาตกรรม จึงเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
ด้านนางกรรณิการ์ กล่าวว่า ตนเองแยกทางกับสามี มีบุตร 2 คน บุตรสาวคนโตชื่อน้องเตย อายุ 17 ปี และบุตรชายคนเล็กชื่อเด็กชายกร (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ว่า สองคนพี่น้องมีความสนิทสนมกันมาก จะคุยกันทุกเรื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ทราบข่าวจากบุตรชายว่ามีชายคนหนึ่งชื่อ “นะ” ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า โซนิค สีน้ำเงิน นัดมารับน้องเตยที่ถนนสาย 331 ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม โดยลักษณะชายคนดังกล่าวแต่งตัวสวมเสื้อคลุมสีดำ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ ใส่กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ทำให้ไม่เห็นใบหน้า แต่ก่อนหน้านั้นทราบจากพี่สาวว่านายนะ ที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊กมาประมาณ 2 เดือนแล้ว ส่งรูปมาให้ดูว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี อายุประมาณ 30 ปีเศษ และอ้างว่าทำงานมีรายได้เดือนละ 4-5 หมื่นบาท และได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ชอบน้องเตยมาก ติดต่อกันไปมาบอกว่าและจะส่งเสียเงินให้ใช้ จะซื้อโทรศัพท์ให้ ขอให้ออกมาพบหน้ากัน แต่ที่ผ่านมาน้องเตยก็ไม่เคยเชื่อและออกไป
พอบุตรชายเล่าเรื่องดังกล่าวว่าน้องเตยนัดพบและออกไปพบนาย “นะ” ตนจึงรีบโทร.ไปตาม แต่บุตรสาวก็ขออนุญาตอ้างว่านาย “นะ” จะพาไปทำความรู้จักแม่และครอบครัว ซักพักนาย “นะ” ก็ขอเบอร์โทร.ตนจากน้องเตยแล้วทำทีโทร.มาขออนุญาตแม่ว่าเสร็จเรื่องแล้วจะพามาส่ง ไม่ต้องห่วง แต่ตนรู้สึกไม่สบายใจไม่เห็นบุตรสาวกลับบ้านมาซักที จึงโทรศัพท์ติดต่อตลอดทั้งคืน แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ปกติบุตรสาวตนเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน เรียบร้อยไม่ค่อยออกไปเที่ยวเตร่
ต่อมาช่วงสายของวันที่ 4 ต.ค.ตนได้รับโทรศัพท์ซึ่งเป็นเบอร์ของน้องเตยโทร.เข้ามาแต่เป็นเสียงผู้ชายที่ไม่คุ้น พร้อมทั้งสอบถามว่าตนเป็นอะไรกับเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ พอได้ยินทำให้ตนใจไม่ดี คาดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูกสาว ทางฝ่ายโน้นบอกให้ตนตั้งสติให้ดี ก่อนบอกว่าบุตรสาวเสียชีวิตแล้ว อยู่ที่บ้านเลขที่ 30 หมุ่ 5 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนาย “นะ” ตนพร้อมญาติๆ จึงได้รีบเดินทางไปที่เกิดเหตุทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บศพเรียบร้อยแล้ว เมื่อตนเข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ว่าเป็นมาอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตอบอะไรมาก บอกเพียงว่า น้องเตยเสียชีวิตในสภาพนอนหงายอยู่บนเตียงภายในห้องนอนของนาย “นะ” สภาพที่สวมเสื้อยืดและมีเสื้อเชิ้ตแขนยาวใส่ทับ และใส่กางเกงขาสั้น แต่ไม่ได้สวมใส่กางเกงใน น้ำลายปนเลือดไหลออกจากปาก
จากนั้นจึงนำศพส่งตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเจ้าของบ้านชื่อนายมานะ ยังไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 52 ปีมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จะกลับมาบ้านที่ จ.ชลบุรี สัปดาห์ละครั้ง และหลังเกิดเหตุได้ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำจนต้องส่งโรงพยาบาลทำการล้างท้อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำ
ทั้งนี้ผลการชันสูตรเบื้องต้น แพทย์ระบุว่าระบบหายใจโลหิตล้มเหลว จากนั้นตนและญาติจึงได้รับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านในบน ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และมีกำหนดฌาปนกิจศพในวันพุธที่ 9 ต.ค.นี้ ซึ่งตนเกรงว่าการเสียชีวิตของบุตรสาวมีเงื่อนงำและจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเนื่องจากนาย “นะ” ใช้รูปคนอื่นแทนรูปตนเองในเฟซบุ๊กและพูดจาหว่านล้อม โกหกต่างๆ นานา อยากให้นางปวีณา ช่วยตรวจสอบเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้
ภายหลังรับแจ้ง นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเร่งขอผลชันสูตรศพอย่างละเอียด พร้อมทั้งประสาน พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี และ พ.ต.อ.ปราโมทย์ ผกก.สภ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี เพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนผู้กระทำผิดโดยเร็ว ส่วนทางมูลนิธิปวีณาฯ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดูแลติดตามคดีให้ความเป็นธรรม และให้เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี ลงไปดูแลให้ความช่วยเหลือครอบครัว และฟื้นฟูสภาพจิตใจต่อไป