ปทุมธานี - รมว.กระทรวง พม.เร่งสางปัญหาสังคม เหตุล่าสุดสังคมทราม! แม่แท้ๆ ขายบริการทางเพศหลอกพาลูกสาววัย 5 ขวบ ไปบำเรอกามหนุ่มใหญ่เพื่อแลกยาบ้ามาเสพ ประสานตำรวจจับกุมตัวได้แล้วทั้งคู่ ตั้งข้อหาหนักความผิดฐาน “ค้ามนุษย์”
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่บริเวณด้านหน้า สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางปวีณา หงสกุล รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกับ พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ แถลงข่าวการจับกุมตัว นายอมรเทพ หรือ เดช สีใส อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/3 หมู่ 8 ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 727/2556 ลงวันที่ 5 ก.ย.2556 ในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลและกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อได้ว่าการกระทำของนายอมรเทพ หรือ เดช สีใส นั้นเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่นโดยมิชอบ (โดยตกลงสัญญาว่าจะให้ยาบ้าเป็นสิ่งตอบแทน) ซึ่งเข้าลักษณะเป็นธุระจัดหา หรือรับไว้ซึ่งเด็ก จึงเป็นความผิดฐาน “ค้ามนุษย์” ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 และมาตรา 12 และข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยจับกุมตัวได้ที่ริมถนนพหลโยธิน หน้าศูนย์รถยนต์ฟอร์ด ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะผู้ต้องหากำลังยืนอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับ
ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงได้ควบคุมตัวนายอมรเทพ ส่งตรวจปัสสาวะที่สถาบันธัญญารักษ์ ปรากฏว่าพบสารเสพติดกลุ่มเมทแอมเฟตามีน จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการตรวจสอบประวัตินายอมรเทพ ที่ผ่านมา พบว่ามีหมายจับถึง 5 หมาย ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี ในเขตพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ และฉ้อโกงทรัพย์ 1 คดี ฉ้อโกง 2 คดี หมิ่นประมาท ดูหมิ่นอีก 1 คดี ในหลายท้องที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จะประสานงานตามหมายจับเพื่อให้อายัดตัวคนร้ายรายนี้ต่อไป
สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงสายวันที่ 4 ก.ย.ได้มี นางเอ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี (ป้า) ได้พา ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบเศษ ซึ่งเป็นหลานสาวเข้าร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยเล่าว่า ด.ญ.บี ได้ถูก น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ผู้เป็นแม่แท้ๆ ซึ่งมีอาชีพขายบริการทางเพศและติดยาเสพติด หลอกพา ด.ญ.บี ไปให้ผู้ชายที่เป็นลูกค้าประจำชื่อ “ป๋าเดช” กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ ขอให้ทางมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรม เร่งจับน้องสะใภ้กับชายที่ชื่อ “ป๋าเดช” มาลงโทษตามกฎหมายด้วย หลังรับเรื่องนางปวีณา ได้ประสาน พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เพื่อเร่งดำเนินการสอบ ป.วิอาญาเด็กและออกหมายจับ น.ส.น้อย และนายอมรเทพ หรือ เดช สีใส ผู้กระทำความผิดทันที
วันต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม น.ส.น้อย แม่ของ ด.ญ.บี ได้ แต่ “ป๋าเดช” หลบหนีไปได้ น.ส.น้อยให้การรับสารภาพว่าคบหากับป๋าเดชมาประมาณ 3 เดือนแล้ว เพราะมาซื้อบริการ ต่อมาป๋าเดชบอกว่าชอบเด็กๆ ให้หามาให้หน่อย และคอยขี่รถจักรยานยนต์มาแวะเวียนแถวบ้านบ่อยๆ ที่หลอกพาลูกสาวไป เพราะป๋าเดชบอกว่าจะให้ยาบ้าเป็นค่าตอบแทนแล้วมาเสพด้วยกัน ด้วยความอยากเสพยา จึงไปดักเจอลูกสาวที่หน้าโรงเรียนตอนเช้าก่อนที่จะเข้าโรงเรียน โดยหลอกว่าจะพาไปขอเงินน้า ลูกสาวจึงยอมไปด้วย จากนั้นได้พาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปที่ห้องเช่าของป๋าเดช ในซอยวัดบางพูน จ.ปทุมธานี และปล่อยให้ป๋าเดชล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวโดยการใช้อุปกรณ์ สิ่งเทียม
ภายหลังถูกจับกุม น.ส.น้อย ถูกดำเนินคดีในข้อหา “เพื่อตอบสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานโดยใช้อุบายล่อลวง ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยวิธีอื่นใด”
ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เข้าไปดูแล ด.ญ.บี และครอบครัวอย่างใกล้ชิดแล้ว ถึงแม้ว่าผู้ต้องหารายนี้จะให้การปฏิเสธก็ตาม แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจร่างกาย พร้อมสอบสหวิชาชีพ ด.ญ.บี ตามขั้นตอนของกฎหมายก่อนออกหมายจับ และแม่ของ ด.ญ.บี ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ก็ให้การรับสารภาพทุกอย่าง อยากฝากว่าปัญหาสังคมที่ทวีความรุนแรงและผู้ที่ถูกกระทำล่วงละเมิดนั้น จากสถิติเป็นเด็กกลุ่มที่อายุน้อยลงทุกที มูลนิธิปวีณาฯ พร้อมให้การช่วยเหลือ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมที่จะลงไปดูแลเพื่อให้การช่วยเหลือ บรรเทาปัญหาต่างๆ เพราะปัญหาสังคมไม่ใช่เป็นหน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง ขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาเพื่อให้สังคมเราน่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วย
