“สุรชัย แซ่ด่าน” พ้นคุก หลังได้พระราชทานอภัยโทษ

“สุรชัย แซ่ด่าน” จำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้รับการปล่อยตัวแล้ว เมื่อเวลา 17.30 น.ที่ผ่านมา หลังถูกจำคุกตั้งแต่ปี 54 และได้ขอพระราชทานอภัยโทษ

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (4 ต.ค.) นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน อายุ 71 ปี แกนนำกลุ่มแดงสยาม ผู้ต้องขังตามคดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลารวม 10 ปี ตั้งแต่ปี 2554 ได้การปล่อยตัวแล้ว หลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยมีญาติและกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งไปรอต้อนรับที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ก่อนหน้านี้ นายสุรชัย แซ่ด่าน ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ผ่านกรมราชทัณฑ์ โดยมีเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน อาทิ เป็นผู้ต้องขังวัยชรา และเจ็บป่วยมีโรคประจำตัว

ขณะที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้ปล่อยตัวนายสุรชัย แล้วเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ซึ่งมีนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ญาติและกลุ่มคนเสื้อแดง เดินทางไปรับที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากนั้นก็ได้เดินทางไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อรับประทานอาหารร่วมกัน

“เมื่อวานกระแสข่าวแรงมาก ส่วนหนึ่งนายสุรชัยคงจะหวาดกลัวสื่อมวลชนด้วย ทำให้ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้นายสุรชัยก็ได้รับการปล่อยตัวแล้ว” นางธิดากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการปล่อยตัวช่วงเย็นวันนี้มีนางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ พร้อมครอบครัวและกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งรอรับด้วยความยินดี มีมอบการดอกไม้ให้กำลังใจและร้องเพลงด้วยความดีใจ เมื่อนายสุรชัยออกมาจากเรือนจำ ทางครอบครัวและคนเสื้อแดงต่างเข้าไปโอบกอดแสดงความยินดี และพากันเดินไปที่หน้าป้ายเรือนจำพิเศษ เพื่อถ่ายรูปหมู่ และนายสุรชัยได้โอบกอดภรรยาและลูกสาวด้วยความดีใจ ที่ได้รับอิสรภาพ

นายสุรชัยกล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานอภัยโทษ เพราะหากไม่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ในเรือนจำได้อีกกี่ปี ถือเป็นพระเมตตาอย่างสูงส่ง นอกจากนี้ขอขอบคุณรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ที่ดูแลตนเป็นอย่างดีในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ โดยดูแลตนต่างจากนักโทษทั่วไป และที่สำคัญขอบคุณพี่น้องเสื้อแดง เพราะตลอด 2 ปี 7 เดือนที่ติดคุก พี่น้องเสื้อแดงมาเยี่ยมตนทุกวัน ไม่เคยทอดทิ้ง รวมถึงขอขอบคุณนายใหญ่จากดูไบด้วย สำหรับในอนาคตสิ่งที่จะทำคือช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น หลังจากนี้ก็จะไปร่วมงานวันเกิดของ นายจตุพร พรหมพันธ์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนเสื้อแดงไม่เคยทะเลาะกัน