ดีเอสไอโชว์ผลงานรวบแก๊งค้าไม้พะยูงเถื่อนส่ง สปป.ลาว หลังรับเป็นคดีพิเศษ เร่งทำคดี ระบุมี ขรก.เอี่ยวเรื่องนี้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (21 ส.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายสุชน ชาลีเครือ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม แถลงผลการสืบสวนสอบสวนกรณีการลักลอบนำไม้พยุงที่ส่งออกนอกราชอาณาจักร ในพื้นที่ จ.หนองคาย และจ.บึงกาฬ โดยมีนายทุนและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้การสนับสนุน
นายธาริตกล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ ร.อ.กลวิตร บุนนาค ผู้อำนวยการประจำสำนักปฏบัติการพิเศษ และนายธิตินัย พาติกบุตร เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ ร่วมกับทหารเรือ (นรข.หนองคาย) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน วางแผนจับกุมผู้กระทำความความผิดพยายามลักลอบนำไม้พะยูงส่งออกไปยังประเทศลาว โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา27 จำนวน 2 คดี
1. ดีเอสไอเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาบริเวณริมแม่น้ำโขง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายสมพงษ์ ดำดูลย์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 บ้านหนองสมบูรณ์ ต.โคกสง่า อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งขับรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ HINO เลขทะเบียน 70-1617 อุบลราชธานี พบไม้พะยูงจำนวน 44 ท่อน และโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 3 เครื่อง และซิมโทรศัพท์มือถือ สำเนาเอกสารซื้อขาย จำนวน 2 ชุด นายสมพงษ์ให้การรับสารภาพว่านายจ้างได้จ้างวานให้ขับรถบรรทุกขนไม้พะยูงมาจาก จ.อำนาจเจริญ เพื่อนำมาส่งที่ริมแม่น้ำโขง หลังจากนั้นจะมีผู้มารับไม้ข้ามไปยังประเทศลาว
อธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อว่า สำหรับคดีที่ 2 ดีเอสไอได้ตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณ ริมแม่น้ำโขง ต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย พบไม้พะยูงจำนวน 15 ท่อน ภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผต 525 ชลบุรี ส่วนผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ และยังพบว่ามีไม้พะยูงบางส่วนถูกลำเลียงไปที่ริมแม่น้ำโขงแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวจับกุมนั้นได้พบเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ขับออกจากฝั่งประเทศไทยมุ่งหน้าไปยังประเทศลาวทันที
จากการสืบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ทั้ง 2 กรณีมีข้าราชการในพื้นที่บางหน่วยงานเป็นผู้อำนวยความสะดวกและแจ้งข่าวให้กับขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ จึงทำให้ขบวนการนี้สามารถกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หลังจากดีเอสไอได้รับกรณีนี้เป็นคดีพิเศษแล้วจะเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป