สน.คลองตัน นำตัว “สารวัตรหมู” ตำรวจคลั่งก่อเเหตุเอาปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มห้องสืบสวน สน.คลองตัน หลังเครียดถูกย้ายไปเป็นสารวัตรธุรการโรงพักบางยี่เรือ ฝากขังต่อศาลจังหวัดพระโขนงแล้ว หลังจับกุมตัวได้เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ขณะกำลังพยายามหลบหนีออกพม่าผ่านชายแดนเมืองกาญจน์ เบื้องต้นตำรวจจับตรวจฉี่พบสีม่วง แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ยอมรับว่าเสพยาเสพติดก่อนก่อเหตุ!
จากกรณี สารวัตรธุรการ สน.บางยี่เรือ เครียดควงปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่ห้องสืบสวนของโรงพักคลองตัน ซึ่งเคยนั่งทำงานเป็นสารวัตรสืบสวน อย่างอุกอาจแล้วหลบหนีไปตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถนนสรรพาวุธ แขวงและเขตบางนา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว พ.ต.ท.บุรินทร์ ลลิตาธาดา หรือ สารวัตรหมู สว.ธร.สน.บางยี่เรือ ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงภายในห้องสืบสวน สน.คลองตัน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา มาสอบสวนที่ สน.คลองตัน หลังจากพยายามหลบหนีไปกบดานที่ประเทศพม่า และถูกจับกุมตัวพร้อมด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนสั้น 2 กระบอก ที่บริเวณชายแดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงบ่าย วานนี้ (15 ส.ค.) มาฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนง
โดยแจ้งข้อหากระทำความผิดฐาน มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนที่ใช้ดินระเบิดโดยไม่มีเหตุ พร้อมคัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด ซึ่งภายหลังศาลได้พิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาจะหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงดึกวานนี้ (15 ส.ค.) ภายหลัง พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พร้อมตำรวจ กก.3 บก.สส.บช.น.และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน เดินทางไปควบคุมตัว พ.ต.ท.บุรินทร์ มาได้แล้ว เวลา 23.30 น. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า หลังจากที่ควบคุมตัว พ.ต.ท.บุรินทร์มาได้ทำการสอบปากคำ เบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงภายในห้องสืบสวน สน.คลองตันจริง เนื่องจากสาเหตุเกิดอาการน้อยใจ อึดอัดใจ เรื่องที่ถูกโยกย้ายตำแหน่ง ส่วนหลังก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไป จ.กาญจนบุรีนั้น พ.ต.ท.บุรินทร์อ้างว่ามีเจตนาที่จะไปไหว้พระ แล้วหลังจากนั้นก็จะกลับมาทำงานตามปกติ และไม่คาดคิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต และมีการออกหมายจับ สำหรับปืนเอ็ม 16 กระบอกที่ใช้ก่อเหตุนั้นได้มานานแล้วตั้งแต่สมัยปฏิบัติหน้าที่อยู่แถบชายแดน เป็นปืนส่วนตัวไม่ใช่ของทางราชการ
พล.ต.ต.สืบศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนผลการตรวจปัสสาวะนั้นพบว่าเป็นสีม่วง แต่ทาง พ.ต.ท.บุรินทร์ไม่ยอมรับว่าเสพยาเสพติด ซึ่งในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่จะส่งตัวไปให้ทางโรงพยาบาลตำรวจตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้สืบทราบว่า พ.ต.ท.บุรินทร์เคยได้เข้ารับการบำบัดเรื่องยาเสพติด แต่ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ ซึ่งต้องขอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งก่อน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ทางราชการไม่ได้ออกให้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ต่อมาวันเดียวกัน เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยภายหลังจากที่มีการจับกุมตัวพ.ต.ท.บุรินทร์ ได้ ว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดทำงานตามขั้นตอนทุกอย่าง ตั้งแต่ดำเนินการขออำนาจศาลออกหมายจับ และประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กระทั่งพบรถยนต์ของพ.ต.ท.บุรินทร์ และจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 (บก.น.8) ต้นสังกัด ได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงแล้ว ยืนยันว่าดำเนินคดีทุกข้อหาแน่นอน
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพ.ต.ท.บุรินทร์ เบื้องต้น ทราบว่าอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนไม่มีทะเบียน ซึ่งได้มาระหว่างที่ทำงานอยู่จ.สระแก้ว ได้มาจากบริเวณชายแดน ไม่ใช่ปืนของทางราชการ ส่วนอาวุธปืนกล๊อก 9 มม. พ.ต.ท.บุรินทร์ ให้การว่าเป็นปืนประจำกายของตัวเอง สำหรับประเด็นเรื่องยาเสพติด เบื้องต้นมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยหลังจากที่จับกุมตัวได้ ก็นำตัวส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจ ผลระบุว่าเป็นสารเพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน จึงได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดเพิ่มเติมแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่แม่ของพ.ต.ท.บุรินทร์ ระบุว่าลูกชายเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประสาท เป็นอาการทางประสาทที่เกิดจาการเสพยาเสพติดหรือเป็นการรักษาอาการป่วยทางจิต พล.ต.ต.สืบศักดิ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนในเชิงลึกพบว่า พ.ต.ท.บุรินทร์ ก่อนหน้านี้เคยเข้ารับการบำบัดรักษาตัวเกี่ยวกับยาเสพติด ที่สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ซึ่งนานมาแล้ว ส่วนปัจจุบันจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประสาท ตามที่แม่ของพ.ต.ท.บุรินทร์ ให้การหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบหลักฐานเอกสารจากทางโรงพยาบาล
ถามต่อว่าก่อนหน้านี้พ.ต.ท.บุรินทร์ เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.ต.สืบศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่ทราบ แต่จากการสอบถามพบว่าเคยมีการยิงปืน แต่มีครั้งนี้ที่ชัดเจนและรุนแรงที่สุด ส่วนสาเหตุที่ทำให้พ.ต.ท.บุรินทร์ กระทำการดังกล่าวน่าจะเกิดจากนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนอารมณ์รุนแรง เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนร่วมงานก็ทราบว่าในวันเกิดเหตุพ.ต.ท.บุรินทร์ ไม่ได้มีอาการมึนเมา เพิ่งจะทานข้าวเสร็จ แต่ที่ชัดเจนไม่ได้เกิดจากความเครียดที่ถูกย้ายตำแหน่ง เพราะเรื่องการโยกย้ายผ่านมานาน 2 ปีแล้ว
