ผบก.น.8 เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการตำรวจคลั่ง! สารวัตรธุรการ สน.บางยี่เรือ คลุ้มคลั่งควงปืนเอ็ม 16 กราดยิงถล่มห้องสืบสวน สน.คลองตัน ก่อนทิ้งอาวุธเผ่นขึ้นเก๋งซีอาร์วีขับหลบหนี เผยอดีตเคยเป็นสารวัตรสืบ สน.คลองตัน แต่ถูกเด้งไปเป็นสารวัตรธุรการ สน.บางยี่เรือ จนเกิดความเครียด ล่าสุด บก.น.8 มีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อนแล้ว
วันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 01.30 น. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เปิดเผยความคืบหน้าว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า พ.ต.ท.บุรินทร์ได้มาก่อเหตุในช่วงเวลา 15.30-16.00 น. หลังก่อเหตุได้นำอาวุธปืนไปด้วยไม่ได้ทิ้งไว้แต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในราชการสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมอยู่ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ติดต่อว่าจะมอบตัวแต่อย่างใด แต่ได้เรียกภรรยาของ พ.ต.ท.บุรินทร์มาสอบถามแล้ว ก็ทราบความเคลื่อนไหวในบางส่วน คาดว่าจะพบตัวเร็วๆ นี้
เบื้องต้นสำหรับสาเหตุที่ พ.ต.ท.บุรินทร์ก่อเหตุนั้น เท่าที่ทราบอาจจะเป็นเรื่องของความคับแค้นใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยเป็น สว.สส.อยู่ที่ สน.คลองตันมาก่อน อาจจะมีเหตุให้ถูกโยกย้ายไป ส่วนอีกสาเหตุก็อาจจะมาจากเรื่องส่วนตัวแต่ยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร จึงต้องระบายด้วยการใช้อาวุธปืนยิงใส่ที่ด้านหลังห้องสืบสวนแบบนี้ ส่วนประวัติส่วนตัวของ พ.ต.ท.บุรินทร์นั้น เท่าที่ทราบนั้นเป็นคนดีระดับหนึ่ง ทำงานดีแต่อาจจะมีเรื่องโมโหร้ายอยู่ด้วย แต่ไม่เคยเป็นคดีมาก่อน สำหรับเรื่องประวัติเสพยานั้นก็ไม่มีใครพบเห็นแต่อย่างใด เรื่องที่ว่าเคยถูกทำทัณฑ์บนก็ยังไม่พบเอกสารในส่วนนี้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบหลักฐานในเรื่องของปลอกกระสุนปืนที่พบนั้น ไม่มีหลักฐานบ่งบอกว่าเป็นของทางราชการแต่อย่างใด เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทาง บก.น.5 นั้นรับผิดชอบในเรื่องของคดีอาญา ซึ่งได้รายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องแล้ว อยู่ที่ดุลพินิจว่าจะดำเนินการด้านทางวินัยอย่างไร อาจจะเป็นพักราชการหรือสำรองราชการก็ได้
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.กู้เกียรติ จันทร์พุ่ม พงส.ผนพ.สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงภายในห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง หลังได้รับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมเกษม จารักษ์ รอง ผกก.จร. รักษาการ ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ต.วิชรากรณ์ วงศ์บุญ สว.สส.สน.คลองตัน
ที่เกิดเหตบริเวณประตูข้างห้องติดถนนกำแพงเพชร 7 เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ทั้งกระสุนจริงและซ้อมจำนวนหลายปลอก บริเวณใกล้กันพบปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก แมกกาซีนจำนวน 2 อัน ที่แท่งแบริเออร์ริมถนนพบรูกระสุนจำนวน 2 รู จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ที่ใช้อาวุธปืนดังกล่าวคือ พ.ต.ท.บุรินทร์ ลลิตาธาดา สว.ธร.สน.บางยี่เรือ (อดีต สว.สส.สน.คลองตัน) โดยหลังจากลงมือได้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป
โดยสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากอาการเครียดเรื่องปัญหาส่วนตัว ส่วนเรื่องการดำเนินคดีเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะทำเรื่องรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อขอตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.บุรินทร์ ลลิตาธาดา สว.ธร.สน.บางยี่เรือ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงบริเวณหน้าห้องสืบสวน สน.คลองตัน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปยัง บช.น.และบก.น.5 ทราบว่าขณะนี้กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.บุรินทร์ ลลิตาธาดา สว.ธร.สน.บางยี่เรือ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยให้มีผลทันที ขณะที่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพระโขนงได้ออกหมายจับแล้ว นอกจากนี้ ให้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ 3 ชุด เพื่อเร่งติดตามตัว พ.ต.ท.บุรินทร์ ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่ง ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำให้ชุดปฏิบัติการพิเศษดังกล่าว ปฏิบัติการด้วยความรอบคอบระมัดระวังที่สุด เพราะ พ.ต.ท.บุรินทร์ยังพกพาอาวุธติดตัวอยู่ โดยให้เน้นการเจรจาต่อรองเป็นหลัก และฝากไปยัง พ.ต.ท.บุรินทร์ เข้ามอบตัวต่อผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า จากข้อมูลทราบว่า พ.ต.ท.บุรินทร์ ซึ่งเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 50 แต่สอบตกจึงจบพร้อม นรต.รุ่น 51 และที่ผ่านมามีปัญหาการเสพยาเสพติด อีกทั้งขาดราชการบ่อยครั้ง จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงบ่อยครั้ง และเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาถูกย้ายจากตำแหน่ง สว.สส.สน.คลองตัน ไปเป็น สว.ธร.สน.บางยี่เรือ