“คำรณวิทย์” ลั่น คดีสารวัตรธุรการ สน.บางยี่เรือ ควงปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มห้องสืบสวน สน.คลองตัน ไม่มีมวยล้มต้มคนดู ชี้ออกหมายจับแล้ว ผบก.น.8 วอนมอบตัว ล่าสุด ผบช.น.ระบุพบรถจอดทิ้งที่ด่านเจดีย์มสามองค์ เผยหลบหนีออกประเทศเพื่อนบ้านแล้ว สั่งจับทันทีหากพบตัว
วันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ต.ท.บุรินทร์ ละลิตาธาดา สว.ธร.สน.บางยี่เรือ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง สว.สส.สน.คลองตัน ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงเข้าไปภายในห้องฝ่ายปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ถ.พัฒนาการ แขวงและขตสวนหลวง จากนั้นได้ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วีหลบหนีไปวานนี้ (14 ส.ค.) ว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำแบบนั้นถือว่าไม่ถูกต้องและต้องพิจารณาความผิดวินัยร้ายแรง เมื่อคืนที่ผ่านมาจึงได้ประสาน พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เพื่อให้พนักงานสอบสวนพื้นที่เกิดรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งไปที่หน่วยงานต้นสังกัดผู้ก่อเหตุ คือ บก.น.8 ตรวจสอบ โดย พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 ได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนการดำเนินคดีให้ทางท้องที่เกิดเหตุรวบรวมหลักฐานทั้งหมดดำเนินคดีออกหมาย ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นการมวยล้มอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามถึงประวัติผู้ก่อเหตุเคยถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้นั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เคยไปรักษาที่โรงพยาบาลประสาทตามที่คุณแม่ให้ข่าวมา ในชั้นต้นการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง บก.น.8 จึงได้สั่งให้ออกจากราชการไว้แล้ว และได้เร่งรัดให้ บก.น.5 ว่าให้รีบดำเนินการทันที
เมื่อถามต่อว่าการที่มีเบาะแสว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอะไรบ้างนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ก็มีแต่พูดกัน แต่หลักฐานต่างๆ ตนยังไม่พบ เมื่อคืนนี้มีคนให้ข่าวว่ามีส่วนพัวพันกับยาเสพติดด้วย ก็ต้องว่าไปตามหลักฐาน ตนยืนยันว่าจะต้องดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยิงปืน ยาเสพติด หรือเรื่องอื่นที่กระทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีทั้งหมด ส่วนที่อาจจะมองว่าเครียดจากการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่นั้นก็ไม่เป็นไร ตนถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา จะมาอ้างว่าถูกย้ายแล้วเครียดมันไม่ใช่ ตำรวจโดนย้ายไปไหนอยู่ไหนก็ทำงานเพื่อประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตรวจสอบอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ พ.ต.ท.บุรินทร์ใช้ก่อเหตุนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ขณะนี้ทาง บก.น.5 กำลังตรวจสอบหลักฐานต่างๆ คาดว่าก่อนเวลา 15.00 น. รายละเอียดทั้งหมดจะถูกส่งมาให้ตนทราบต่อไป
ต่อมาความคืบหน้า ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 (บก.น.8) พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พ.ต.ท.บุรินทร์ ออกจากราชการเอาไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยมี พ.ต.ท.ภัทรศักดิ์ รักการ รอง ผกก.สส.สน.บางยี่เรือ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนช่วยติดตามหาตัวมาดำเนินการตามกฎหมายด้วย ซึ่งในส่วนความเคลื่อนไหวของเจ้าตัวนั้นยังไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ในฐานะผู้บังคับบัญชาตนอยากเเนะนำให้รีบเดินทางเข้ามาพูดคุยกันดีกว่า ซึ่งการดำเนินคดีเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน แต่เรื่องการสอบสวนทางวินัยให้ทาง สน.บางยี่เรือ เป็นผู้ดำเนินการ
พล.ต.ต.รัษฎากรกล่าวว่า สำหรับความประพฤติของ พ.ต.ท.บุรินทร์ ที่ผ่านมาตนได้รับรายงานว่าเจ้าตัวเคยเป็นสารวัตรสืบสวน สน.คลองตันมาถึง 2 ครั้ง เป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจมาก ทำผลงานดีเป็นที่ประจักษ์มาตลอด แต่พอถูกโยกย้ายมาทำงานธุรการ ที่ สน.บางยี่เรือ กลับกลายเป็นคนเงียบขรึมชอบทำตัวลึกลับคล้ายมีความเครียดอยู่ในใจไม่ค่อยปรากฏตัวให้ใครเห็น อย่างไรก็ตาม เมื่อลงมือทำผิดแล้วก็สมควรยอมรับ หากจะเข้ามาพูดคุยกับตนก่อนตัดสินใจเข้ามอบตัวก็จะเป็นการดีมีข้อข้องใจอะไรอยากให้มาพูดคุยกัน
ทางด้าน พ.ต.ท.ภัทรศักดิ์ หัวหน้าคณะทำงานสอบสวนวินัยร้ายเเรง เปิดเผยว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ทำการออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนพฤติกรรมปกติหากพบเจอ พ.ต.ท.บุรินทร์ที่ สน.ก็เห็นยิ้มแย้มทักทายกันดี แต่ตนไม่ทราบว่าข้างในเจ้าตัวคิดอะไร ที่ผ่านมาตำรวจนายนี้เคยดำรงตำแหน่ง สว.สส.สน.คลองตัน จากนั้นโยกย้ายเป็น สวป.สน.บางเสาธง ก่อนจะมานั่งเป็น สว.ธร.สน.บางยี่เรือ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังพักอาศัยอยู่แฟลตสวัสดิการ สน.คลองตัน คาดว่าชนวนก่อนเกิดเรื่องน่าจะมาจากการที่มีใครไปพูดจาไม่เข้าหูหรือมีการปะทะคารมกับใครในห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน สน.คลองตันมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังจากปากของเจ้าตัวต่อไป
ต่อมาเวลา 13.45 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เปิดเผยว่า ล่าสุดได้พบรถยนต์ของ พ.ต.ท.บุรินทร์ จอดอยู่ที่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า พ.ต.ท.บุรินทร์ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อเวลา 07.30 น. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังประสานงานกับตำรวจภูธรภาค 7 หากทราบว่า พ.ต.ท.บุรินทร์เดินทางกลับเข้าประเทศเมื่อใดก็ให้จับกุมตัวได้ทันที
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ตำรวจคอยจับตาดูตลอด หากกลับเข้ามาประเทศเมื่อไหร่สามารถจับกุมได้ทันที ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ามาจากที่ใด ซึ่งในที่เกิดเหตุพบเพียงปลอกกระสุนเท่านั้น เป็นอาวุธสงครามเอ็ม 16 ทั้งปลอกของลูกจริงและลูกซ้อม โดยตนมั่นใจว่าคงไม่มีปัญหาใด เพราะตำรวจผิดเช่นนี้ต้องดำเนินคดีเด็ดขาด ส่วนสาเหตุการลงมือนั้นยังไม่แน่ใจว่ามาจากสาเหตุใด