บก.ปอท.ออกหมายเรียก “บก.เป๊ปซี่-ไทยพีบีเอส” ผู้กระทำผิดโพสต์ข้อความอันเป็นทางเท็จปลุกปั่นข่าวปฏิวัติผ่านสื่อออนไลน์ในเครือข่ายเฟซบุ๊ก จำนวน 4 ราย เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2)
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.ปอท พ.ต.อ.วรรณวุฒิ ชาญนุกูล รอง ผบก.ปอท และ พ.ต.อ.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบก.ปอท แถลงรายชื่อผู้กระทำผิดในการโพสต์ข้อความรุนแรงทางการเมืองก่อให้เกิดการความแตกแยก หรือมือที่ 3 ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเรียกตัวเข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงบ่ายวันนี้
พล.ต.ต.พิสิษฐ์กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มีกลุ่มประชาชนหลายกลุ่มได้ออกมาแสดงความเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะที่อาจจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย โดยเฉพาะในโลกออนไลน์โซเชียลมีเดียก็มีการโพสต์ข้อความต่างๆ ในลักษณะที่แพร่กระจายออกไปทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ความตระหนกตกใจ เนื่องด้วยข้อความต่างๆ เหล่านั้นเป็นข้อความที่ไม่เป็นความจริง ทาง (บก.ปอท.) ได้ทำการตรวจสอบการกระทำความผิดโดยการใช้สื่อออนไลน์อันเป็นเหตุที่สามารถทำให้เกิดเหตุวุ่นวายในบ้านเมือง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง บก.ปอท.ได้มีการตรวจสอบพบข้อความทางสื่อออนไลน์ในเครือข่ายเฟซบุ๊ค ข้อความที่เป็นเท็จจำนวน 4 ราย โดยรายแรก น.ส.วารุณี คำดวงศรี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 351/6 ซอยโสณมัย แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา ใช้นามแฝงในเครือข่ายเฟซบุ๊กว่า “Warunee Khamduangsr” รายที่ 2 ใช้นามแฝงในเครือข่ายเฟซบุ๊กว่า “Yo Onsine” อยู่ระหว่างการสืบสวนชื่อและนามสกุลจริง หากสังเกตจากรูปถ่ายคือพิธีกรจากรายการแดดร่มชมตลาด รายที่ 3 ใช้นามแฝงในเครือข่ายเฟซบุ๊กว่า “Sermsuk Kasitipradit” หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อเป๊ปซี่ นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ อดีตผู้สื่อข่าวสายทหาร นสพ.บางกอกโพสต์ ปัจจุบันเป็นบรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รายสุดท้ายใช้นามแฝงในเครือข่ายเฟซบุ๊กว่า “ปุ๊ชลบุรี นักสู้ธุลีดิน” จากการสืบทราบชื่อว่านายเดชาธร ธีรพิริยะ แกนนำคนเสื้อแดงใน จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.พิสิษฐ์กล่าวอีกว่า โดยทั้งสี่คนนี้ได้กระทำการโพสต์ข้อความที่เป็นเท็จในเรื่องของการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลเพื่อชี้นำให้ประชาชนตื่นตระหนกโดยการกักตุนอาหารและน้ำ อีกทั้งยังโพสต์ข้อความที่อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายของบ้านเมือง จากการพิจารณาจากเนื้อหาไม่มีมูลความจริงและถ้าปล่อยให้เผยแพร่ต่อไป อาจจะเกิดความเสียหายต่อประเทศได้ ทาง บก.ปอท. จึงออกหมายเรียกผู้โพสต์ข้อความทั้งสี่ราย เพื่อให้มาพบพนักงานสอบสวนให้การถึงข้อเท็จจริง ก่อนจะมีการแจ้งข้อดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หากไม่เดินทางมาพบในวันนี้จะมีการออกหมายจับต่อไป
“สำหรับพี่น้องประชาชนให้ไตร่ตรองในการใช้สื่อออนไลน์ เพราะถ้าโพสต์ข้อความที่เป็นเท็จและก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง จะผิดกฏหมายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) เรื่องการนำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้กระทบต่อความมั่นคง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท รวมทั้งผู้ที่กดไลด์และกดแชร์ก็จะมีความผิดเช่นเดียวกัน “ ผบก.ปอท.กล่าว
พระราชบัญญํติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (2) ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ |