xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอจ่อถก ตม.สหรัฐฯจับตัว “สมีคำ” กลับไทยดำเนินคดี

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้ายื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อร้องทุกข์ให้สอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ขัดขวางการสอบสวนในคดีอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือนายวิรพล สุขผล
ตม.อเมริกาจ่อถกดีเอสไอหาแนวทางหิ้วตัว “สมีคำ” กลับมาดำเนินคดี 1 ก.ค.“ธาริต” แจ้งความกลับ “สุขุม” และกลุ่มลูกศิษย์โล้นคำกับกองปราบ 2 ข้อหา ฐานแจ้งความเท็จและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน !

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (30 ก.ค.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้ายื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อร้องทุกข์ให้สอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ขัดขวางการสอบสวนในคดีอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือนายวิรพล สุขผล พร้อมนำพระธีรนัชณ ฤทธา จากสำนักปฏิบัติธรรมพุทธยันตี ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.นำรูปหล่อพระเจ้าตากขนาดเล็กมากมอบให้ดีเอสไอ พร้อมพระสงฆ์อีกจำนวน 75 รูป ถือป้ายให้กำลังใจดีเอสไอในการปกป้องพระพุทธศาสนา พร้อมสวดมนต์พุทธชยันโตให้พรเพื่อความเป็นสิริมงคล

นายธาริต กล่าวถึงความคืบหน้าการนำตัยนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณคำกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยว่า ดีเอสไอได้รับการติดต่อและนัดหมายอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศสหรัฐอเมริกา 2 หน่วยงานคือ หน่วยสืบสวนสอบสวนด้านคนเข้าเมืองและศุลกากรของประเทศสหรัฐอเมริกา และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ประจำสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย จะมาประชุมปรึกษาความคืบหน้าการดำเนินการต่อไปกับดีเอสไอในวันพฤหัสฯ ที่ 1 ส.ค.เวลา 10.30 น.จะมีการอัฟเดทข้อมูลว่าทางหน่วยงานของประเทศสหรัฐฯได้ดำเนินการไปอย่างไรบ้างและสิ่งที่จะดำเนินการต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ได้เดินทางไปราชการที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นำโดย พ.ต.ท.ไพศิษฐ์ สังคหะพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ (ระดับ 9) ดีเอสไอ ได้กลับมาถึงประเทศไทย โดยผลการหารือแนวทางดำเนินการความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือว่าจะได้ตัวอดีตพระเณรคำมาเมื่อไหร่ตนจะแถลงหลังการประชุม โดยเราได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทางการของประเทศสหรัฐอเมริกา

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ตนได้เซ็นหนังสือมอบอำนาจให้กองกฎหมาย ดีเอสไอ โดย ผอ.ศูนย์ให้การช่วยเหลือประชาชน (ศชก.) ดีเอสไอ เพื่อเดินทางไปเข้าร้องทุกข์กับกองปราบปราม ในเวลา 15.00 น.วันนี้เพื่อดำเนินคดีกับนายสุขุม วงประสิทธิ กับพวก 2 ข้อหา ประกอบด้วยข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งปฎิบัติการตามหน้าที่ ตามที่นายสุขุม กับพวก ได้ไปร้องทุกข์หลายแห่งว่าทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตั้งแต่อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ และ พ.ต.ท.วิชิต อุปะละ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไออีกหลายรายว่ากระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องในคดีนี้ ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา ดีเอสไอได้พิจารณาแล้วสิ่งที่บุคคลกลุ่มนี้กับพวกทำไปเป็นความผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองและเราไม่ควรปล่อยไว้เป็นแบบอย่าง

นายธาริต กล่าวอีกว่า ดีเอสไอเราเป็นพนักงานสอบสวนทำคดีพิเศษ ที่ผ่านมาการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในฐานะผู้ต้องหาเป็นเรื่องธรรมดา ถูกผิดก็ว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะมีการกลั่นกรองเป็นชั้นในกระบวนการยุติธรรมทั้งพนักงานสอบสวน อัยการ ศาล ที่นานาชาติก็ดำเนินการแบบนี้ ไม่มีใครที่ไหนหากถูกดำเนินคดีก็ไปสวนกลับว่าเจ้าหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือโดยมิชอบ ถ้าปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ก็วุ่นวายกันใหญ่ เราก็คิดว่าควรจะระงับยับยังการกระทำของนายสุขุม กับพวก เพราะจะเป็นแบบอย่างไม่ดีและผิดกฎหมายด้วย จึงตัดสินใจร้องทุกข์กับกองปราบปราม ส่วนที่ดีเอสไอเข้าร้องทุกข์กับกองปราบปราม เพราะบุคคลกลุ่มนี้ได้กระทำความผิดหลายที่ล้วนแต่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานทั้งนั้น การจะไปร้องทุกข์กับโรงพักใดอาจจะไม่ครอบคลุม ความจริงเรื่องอย่างนี้ถือเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับการทำคดีอดีตพระเณรคำของดีเอสไอ เมื่อมีคนมาว่าร้ายดีเอสไอก็ดำเนินคดีได้ แต่ดีเอสไอเห็นว่าไม่ควรทำเองจึงร้องทุกข์มอบให้คนกลางกองปราบปรามทำ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายว่าจะตรงไปตรงมา

นายสงกานต์ กล่าวว่า จากการที่มีกลุ่มบุคคลที่กระทำไม่เหมาะสมทั้งการนำกล้วย หรือสับปะรด มาให้ดีเอสไอ หรือการกระทำใดๆ ที่เป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งกรณีที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้ออกรับแทนมาตลอดทั้งที่การทำงานของดีเอสไอได้ทำอย่างตรงไปตรงมาในการตรวจสอบการทำธุรกรรมหรือการรวบรวมพยานหลักฐานนำมาพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม ตนมีข้อมูลทั้งหมดว่าใครอยู่เบื้องหลังในการเคลื่อนไหว ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่ากลุ่มใดอยู่เบื้องหลังเณคำที่เข้ามาป่วนที่ดีเอสไอ กองปราบ หรือ ปปง.มีหลักฐานชัดเจน ตนยอมไม่ได้ที่ให้บุคคลเหล่านี้กระทำการไม่เหมาะสม จึงเข้าให้การกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้พิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่สนับสนุนยุยงส่งเสริมด้วยประการใดๆ กับนายอดีตพระเณรคำ

นายสงกานต์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญกรณีมีกลุ่มบุคคลเคยบอกว่า ถ้าผลการตรวจภาพถ่ายพระนอนหนุนหมอนกับสีกาออกมาจะยอมรับ แต่เมื่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าไม่ใช่ภาพตัดต่อ แต่ก็มีการกล่าวอ้างบุคคลอื่นเป็นพระในรูปอีก จึงเป็นการทำลายพยานหลักฐานในการดำเนินคดีของดีเอสไอหรือไม่ นอกจากนี้กรณีที่ผู้ใดการันตีว่าพระเณรคำจะกลับมาวันที่ 31 ก.ค.หากไม่กลับมา ตนได้เตรียมปี๊บไว้ให้คนที่พูด 2 ใบ ไว้ให้คลุมหัว ตนจะรอดูถึงเที่ยงคืนวันที่ 31 ก.ค.ว่าอดีตพระเณรคำมาหรือไม่ จะฝากปี๊บไว้ที่ รปภ.หน้าดีเอสไอ นอกจากนี้ยังให้ดีเอสไอตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ที่ดำเนินการอายัดเงินในบัญชีธนาคารของอดีตพระเณรคำล่าช้า โดยมีการให้เจ้าหน้าที่กองปราบ แก้ไขเอกสารที่แฟกซ์ส่งเรื่องอายัดเงินให้ธนาคารดังกล่าว มีการให้แก้เอกสารไปแก้เอกสารมาหลายรอบใช้เวลา 3-4 ชม.เมื่อวันที่ 3 ก.ค.จนอาจจะเป็นสาเหตุที่มีเงินอดีตพระเณรคำเหลือติดบัญชีเพียง 300,000 บาท




กำลังโหลดความคิดเห็น