“สงกรานต์” ร้อง ป.ป.ส.ตรวจสอบ “เณรคำ” พร้อมพวกเกี่ยวข้องยาเสพติดหรือไม่

ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ส.ให้ตรวจสอบ “เณรคำ” พร้อมพวกเกี่ยวข้องยาเสพติดหรือไม่

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (9 ก.ค.) นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยื่นเรื่องต่อ พล.ต.อ.พงษ์พัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อให้ ป.ป.ส.ตรวจสอบข้อเท็จจริงพระวิระพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กับพวกลูกศิษย์ ประมาณ 20 คน ว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่

เบื้องต้น ป.ป.ส.รับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนเพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อพุทธศาสนาอย่างมาก ต่อมา พล.ต.อ.พงษ์พัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส.เป็นประธานการประชุมวางแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับนายณรงค์ รัตนานุกูล ที่ปรึกษาสำนักงาน ป.ป.ส.พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.ธเนตร์ นพคุณ ผอ.ส่วนสำนักคดีความมั่นคง 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ธีรพงศ์ ดุลยวิจารณ์ ผอ.ส่วนสืบสวนทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายภูริปนิธิศร์ คงโภคานันทน์ นักวิชาการศึกษาชำนาญการ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เข้าร่วม

ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า อยากให้ ป.ป.ส.ตรวจสอบการสร้างพระแก้วจำลองเพราะมีการบริจาคเงินทำบุญวันแรก 57 ล้านบาท วันที่ 2 มีการบริจาคเงินอีก 100 ล้านบาท เกินกำลังของชาวบ้านในพื้นที่ที่จะบริจาคเงินได้จำนวนมากขนาดนี้ จึงเชื่อว่าเงินทั้งหมดไม่น่าปกติ เรื่องนี้มีหลักฐานในยูทิวบ์ของหลวงปู่เณรคำชัดเจน รวมทั้งการใช้ชื่อวัดป่าไม่ใช่วัดโดยไม่บอกประชาชน อาจจะต้องการฟอกเงินจากการทำบุญ ค้าทองคำ ขบวนการเหล่านี้อาศัยศาสนาเข้ามา ทั้งที่การยื่นจดทะเบียนจัดตั้งวัดไม่เกิน 3 เดือนก็เรียบร้อย เรื่องนี้มีความเสียหายร้ายแรง ขอให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสที่ตู้ ปณ. 63 ราษฎร์บูรณะ 10140 จะไม่เปิดซองจดหมาย ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ทันที

พล.ต.อ.พงษ์พัศกล่าวว่า ดีเอสไอและกองปราบปรามได้มอบข้อมูลจากการลงพื้นที่ให้ ป.ป.ส.ตรวจสอบหลวงปู่เณรคำ พร้อมพวกคนใกล้ชิดประมาณ 20 คน พร้อมข้อมูลบัญชีการเงินของหลวงปู่เณรคำประมาณ 60-70 บัญชี และบัญชีคนใกล้ชิดอีก 20 บัญชีว่ามีการโอนเงินไปไหนบ้าง ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบทางการเงินไปแตะถึงผู้ค้ายาเสพติดจะใช้อำนาจเลขาธิการ ป.ป.ส.ทำเรื่องยึดอายัดทรัพย์สินทั้งหมดทันที ตาม พ.ร.บ.มาตรการและป้องกันยาเสพติด คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบ 2-3 วัน แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ทั้งนี้หากผลการตรวจสอบเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเรายอมไม่ได้

“ขณะนี้มีรายชื่อที่ได้รับจากดีเอสไอ เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 รายชื่อที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.จะใช้เวลาไม่เกิน 2 วันเพื่อตรวจสอบ 20 รายชื่อกับฐานข้อมูลยาเสพติดของ ป.ป.ส. ทั้งในเเละนอกประเทศ ถ้าหากพบว่าหลวงปู่เณรคำ หรือผู้ใกล้ชิดคนใดไปเกี่ยวข้องกับกับข้อมูลนั้น ป.ป.ส.จะเเจ้งให้ดีเอสไอทราบ เเละดำเนินการต่อเนื่องตามอำนาจ ป.ป.ส.ในการยึดเเละอายัดทรัพย์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทองรูปพรรณ รถยนต์ บ้าน ที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นๆ ที่มาจากยาเสพติดทั้งหมด ซึ่งขณะนี้เชื่อกันว่าหลวงปู่มีทรัพย์สินกว่า 1,000 ล้านบาท และถ้าเป็นคดียาเสพติดการส่งตัวข้ามประเทศนี่ไม่ใช่เรื่องยากเลย” พล.ต.อ.พงศพัศกล่าว

พ.ต.ท.ธีรพงศ์กล่าวว่า ในส่วนของข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด เเละการฉ้อโกงประชาชน ล้วนเเต่เป็นความผิดที่เข้าข่ายการฟอกเงิน เพราะฉะนั้น ปปง.จะมีหน้าที่ติดตามเเละดำเนินคดีต่อบุคคลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนี้ จะมีการติดตามร่องรอยการเดินทางของทรัพย์สิน เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานของทุกฝ่าย ให้ลุล่วง

“ผู้ที่ถือครองทรัพย์สินหรือได้รับการมอบหมายทรัพย์สินจากทางหลวงปู่เณรคำ เพื่อเป็นการเเสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อประโยชน์ต่อตัวเองและส่วนรวม ขอให้ประสานงานเข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน พฤติการณ์ในการรับโอน หรือแปรสภาพทรัพย์สิน มีความผิดทางอาญาตามกฎหมายฟอกเงินโทษจำคุกตั้งเเต่ 1-10 ปีปรับไม่เกิน 2 เเสนบาท” พ.ต.ท.ธีรพงศ์กล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า บก.ป.ได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาระยะหนึ่ง ตั้งข้อหาหลักไว้คือ มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เเละ พ.ร.บ คณะสงฆ์ เเละขณะนี้ ทาง บก.ป.ได้มีหนังสืออายัดบัญชีของพระเณรคำทั้งใน กทม.เเละต่างจังหวัดจำนวน 21 บัญชีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งในเรื่องนี้จะส่งให้ทาง ปปง.ตรวจสอบต่อไป คดีนี้ทุกภาคส่วนทำงานเพื่อประโยชน์ของศาสนา สังคมเเละประเทศชาติ ผู้ใด้มีข้อมูลถือว่าท่านเป็นส่วนหนึ่งของผู้เสียหาย ขอให้เขามาให้ข้อมูล เรายินดีที่จะเก็บข้อมูลเป็นความลับ

พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวอีกว่า เร็วๆ นี้จะมีการตรวจสอบดีเอ็นเอกับหญิงสาวเเละลูกที่หลวงปู่เณรคำเคยมีความสัมพันธ์ด้วย สำหรับเรื่องการดำเนินคดีหากมีพยายานหลักฐานที่เพียงพอไม่ว่าพระเณรคำจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เจ้าหน้าที่มีความร่วมมือทางคดีอาญาดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามเเดนได้ เเละทั้งนี้ยังได้ประสานงานกับทาง ปปง.เรื่องการเคลื่อนย้ายเงินต่างๆ ซึ่ง ทาง ปปง.มีเครือข่าย 131 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งฝรั่งเศส เเละอเมริกา ก็ขอให้สบายใจได้ว่าบรรดาทรัพย์สินต่างๆ ที่ถูกถ่ายโอน เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการยึดได้อายัดได้ทั้งหมด