xs
xsm
sm
md
lg

ถนนสาธารณประโยชน์นำมาแปลงสภาพเป็นตลาดได้หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เมื่อไม่นานมานี้...ครองธรรมมีโอกาสดูงาน ณ เทศบาลเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งได้มีการพูดคุยกันถึงโครงการปรับปรุงพัฒนาการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะ ครองธรรมจึงได้นำเสนอตัวอย่างคดีที่มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครองเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นข้อมูลความรู้ และเห็นว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนทั่วไป จึงถือโอกาสนำมาพูดคุยกันในคอลัมน์ครบเครื่องคดีปกครองด้วยครับ...

คดีนี้...เป็นการฟ้องร้องเพื่อปกป้องและรักษาสิทธิของผู้ฟ้องคดี 3 ราย คือนายปัณณ์ นายธันวา และนางสาวจ๊ะจ๋า ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันและประกอบการค้าอยู่บริเวณถนนสาธารณะสายหนึ่ง โดยต่อมาเทศบาลเมืองสุขแสนได้ทำการเปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์ถนนสาธารณะดังกล่าวรวมทั้งลานจอดรถ ซึ่งประชาชนยังใช้สัญจรอยู่ไปเป็นตลาดชั่วคราวเพื่อให้เช่าจำหน่ายสินค้าอยู่เกือบถึง 20 ปี และหลังจากนั้นก็ได้ทำการรื้อถอนตลาดชั่วคราวดังกล่าวแล้วก่อสร้างเป็นตลาดถาวรเสียเลย !!

สามลูกพี่ลูกน้องจึงรวมตัวกันร้องเรียนไปยังเทศบาลเมืองเจ้าของเรื่อง เพื่อขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการแปรหรือถอนสภาพถนนสาธารณประโยชน์ที่พิพาทเพื่อนำมาสร้างเป็นตลาดดังกล่าว แต่ทางเทศบาลฯ กลับแจ้งว่าไม่สามารถค้นหาเอกสารต่างๆ มายืนยันได้ เนื่องจากการเปลี่ยนสภาพได้ดำเนินการมาหลายสิบปีแล้ว

เจอเหตุผลอย่างนี้ ... ผู้เดือดร้อนเสียหายทั้งสามรายจึงนำเรื่องมาขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง
โดยฟ้องว่าเทศบาลเมืองสุขแสนได้ทำการเปลี่ยนสภาพถนนสาธารณประโยชน์ไปเป็นตลาดเพื่อให้เช่าจำหน่ายสินค้าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการกระทำละเมิดต่อพวกตนรวมทั้งชาวบ้านคนอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากถนนที่พิพาทได้

ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล... จังหวัดได้แจ้งให้เทศบาลเมืองสุขแสนดำเนินการจัดทำประชาคมกับ
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อยืนยันการเปลี่ยนสภาพถนนสาธารณประโยชน์มาเป็นตลาด ซึ่งประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ลงมติเห็นชอบในการเปลี่ยนสภาพดังกล่าว เทศบาลฯ จึงรายงานผลให้จังหวัดทราบ โดยเรื่องยังอยู่ในการพิจารณาของจังหวัดและกระทรวงมหาดไทย

สำหรับประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีนี้นั้น... ประมวลกฎหมายที่ดิน ได้กำหนดให้ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อาจถูกถอนสภาพหรือโอนไปเพื่อใช้ประโยชน์อย่างอื่นหรือนำไปจัดเพื่อประชาชนได้ ในกรณีที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ถ้าทบวงการเมือง รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน จัดหาที่ดินมาให้พลเมืองใช้ร่วมกันแทนแล้ว การถอนสภาพหรือโอนให้กระทำโดยพระราชบัญญัติ แต่ถ้าพลเมืองได้เลิกใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นแล้ว หรือที่ดินนั้นได้เปลี่ยนสภาพไปจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันและมิได้ตกลงไปเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใดตามอำนาจกฎหมายอื่นแล้ว การถอนสภาพให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา



และกรณีที่ดินของรัฐซึ่งมิได้มีบุคคลใดมีสิทธิครอบครองและมิใช่สาธารณสมบัติของแผ่นดินอันราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกันนั้น ให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจัดหาผลประโยชน์ ในการจัดหาผลประโยชน์ให้รวมถึงจัดทำให้ที่ดินใช้ประโยชน์ได้ ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้เช่า และให้เช่าซื้อ และในการจัดหาผลประโยชน์ซึ่งที่ดินของรัฐตามนัยดังกล่าวนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะมอบหมายให้ทบวงการเมืองอื่นเป็นผู้จัดหาผลประโยชน์สำหรับรัฐหรือบำรุงท้องถิ่นก็ได้ โดยทบวงการเมืองนั้นให้หมายรวมถึงราชการส่วนท้องถิ่นด้วย

สำหรับการจะใช้ประโยชน์ในที่ดินอันเป็นสาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันนั้น ผู้ขอใช้จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดและต้องได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน และทบวงการเมืองหรือท้องถิ่นผู้ขอถอนสภาพหรือขอเปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการซึ่งกระทรวงมหาดไทยกำหนด ได้แก่ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ทบวงการเมืองใช้ที่ดินของรัฐเพื่อประโยชน์ในราชการตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2541 และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการเปลี่ยนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันจากการใช้เพื่อสาธารณประโยชน์อย่างหนึ่ง เป็นอีกอย่างหนึ่ง พ.ศ. 2543

คดีนี้จึงมีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่า เทศบาลเมืองสุขแสนได้ดำเนินการถอนสภาพการเป็นที่สาธารณประโยชน์ก่อนที่จะนำมาจัดทำเป็นตลาดตามที่ประมวลกฎหมายที่ดินกำหนดไว้หรือไม่ ? และได้มีการดำเนินการเปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินจากถนนสาธารณประโยชน์มาเป็นตลาดถาวรตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดไว้หรือไม่ ?

โดยศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า... แม้เทศบาลฯ ซึ่งเป็นราชการส่วนท้องถิ่นจะมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการดูแลถนนสาธารณประโยชน์รวมทั้งการจัดให้มีตลาดในเขตพื้นที่เทศบาลได้ก็ตาม (พ.ร.บ.เทศบาล 2496 ประกอบระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2544) แต่การนำถนนสาธารณประโยชน์ที่พิพาทอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ร่วมกันตามมาตรา 1304(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไปจัดทำเป็นตลาดถาวรเพื่อให้ประชาชนเช่าทำการค้า อันมีลักษณะเป็นการจัดทำหรือหาผลประโยชน์ในที่ดินโดยการให้เช่า ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอาจมอบหมายให้เทศบาลดำเนินการหาผลประโยชน์สำหรับบำรุงท้องที่ได้นั้น

แต่ก่อนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะมอบหมายให้เทศบาลดำเนินการเช่นนั้นได้ จะต้องมีการถอนสภาพที่ดินให้พ้นสภาพจากการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน โดยทำเป็นพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกาเสียก่อน ซึ่งการถอนสภาพโดยการจัดทำเป็นพระราชบัญญัตินั้นจะต้องปรากฏว่าได้มีการจัดหาที่ดินสำหรับจัดทำเป็นถนนสาธารณประโยชน์แทนที่ดินแปลงเดิมก่อน และหากจะถอนสภาพโดยการจัดทำเป็นพระราชกฤษฎีกาก็จะต้องปรากฏว่าประชาชนได้เลิกใช้ถนนสาธารณประโยชน์นั้นแล้ว หรือถนนนั้นไม่อยู่ในสภาพการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันอีกต่อไป โดยมิได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้อื่น

เมื่อข้อเท็จจริง... ก่อนที่เทศบาลฯ จะนำถนนสาธารณประโยชน์ที่พิพาทมาจัดทำเป็นตลาดถาวรนั้น ผู้ฟ้องคดีและประชาชนโดยทั่วไปยังคงใช้ประโยชน์ในถนนและลานจอดรถดังกล่าวเพื่อการสัญจรอยู่ โดยไม่ปรากฏว่า เทศบาลฯ ได้มีการจัดหาที่ดินอื่นมาทดแทนการใช้ประโยชน์แต่อย่างใด กรณีจึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่จะให้มีการถอนสภาพที่ดินได้

ประกอบกับการเปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินจากการใช้เพื่อสาธารณประโยชน์อย่างหนึ่งมาเป็นการใช้เพื่อสาธารณประโยชน์อีกอย่างหนึ่งนั้น จะต้องเป็นกรณีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปรับปรุงหรือพัฒนาไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยต้องยื่นคำขอต่อจังหวัดซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ ทั้งนี้ตามข้อกำหนดของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเปลี่ยนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันจากการใช้เพื่อสาธารณประโยชน์อย่างหนึ่ง เป็นอีกอย่างหนึ่ง พ.ศ. 2543 แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเทศบาลฯ ได้มีการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว อีกทั้งการที่เทศบาลนำถนนอันเป็นสาธารณประโยชน์ไปใช้ในการจัดทำเป็นตลาดถาวรเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมค่าเช่าแผงขายสินค้านั้น ก็ไม่ถือเป็นการปรับปรุงหรือพัฒนาไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน

ด้วยเหตุผลดังกล่าว การที่เทศบาลเมืองสุขแสนนำถนนสาธารณประโยชน์มาจัดทำเป็นตลาดถาวรเพื่อหารายได้โดยที่มิได้มีการถอนสภาพหรือเปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามที่กฎหมายกำหนดก่อน จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนประเด็นที่ว่าได้มีการทำประชาคมกับประชาชนและบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้วนั้น ศาลเห็นว่าแม้ประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นชอบในการเปลี่ยนสภาพด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่ได้มีผลทำให้การใช้ประโยชน์ในลักษณะการทำเป็นตลาดถาวรนั้นกลายเป็นการใช้ประโยชน์ในลักษณะสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันได้ และเมื่อการดำเนินการจัดทำตลาดถาวรดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในบริเวณที่พิพาทได้รับความเสียหายจากการไม่อาจใช้ประโยชน์จากที่ดินซึ่งเคยเป็นถนนได้ กรณีจึงถือเป็นการกระทำละเมิดอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้เทศบาลเมืองสุขแสน ดำเนินการรื้อถอนตลาดดังกล่าว และดำเนินการจัดทำให้พื้นที่ที่พิพาทกลับคืนมาเป็นถนนสาธารณประโยชน์และลานจอดรถดังเดิม (คดีหมายเลขแดงที่ อ.628/2555)

โดยสรุปก็คือ การเปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ของเทศบาลเมืองสุขแสนนั้น ไม่ได้มีการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด และการทำประชาคมก็ไม่มีผลเป็นการหักล้างหรือรับรองให้สิ่งที่ดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้กลายมาเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมายได้

เป็นอันว่า... สามลูกพี่ลูกน้องและชาวบ้านคนอื่นๆ ก็ได้ถนนสาธารณะกลับคืนมาใช้ประโยชน์ในการสัญจรดังเดิมครับ !!

ครองธรรม ธรรมรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น