ตร.สน.บางเขน รวบหลานทรพีปาดคอ 2 ตา-ยาย ชิงทรัพย์ อ้างติดหนี้พนันฟุตบอล
วันนี้ (29 มิ.ย.)เมื่อเวลา 13.00 น.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายธิพันธ์ธร มากสมบูรณ์ หรือ โต๊ด อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง มีดปลายแหลมจำนวน 1 เล่ม เงินสด 2,400 บาท และพระเครื่องกว่า 100 องค์
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธมีดก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ ส.ท.สมหมาย บุญโต อายุ 81 ปี และนางมาลัย บุญโต อายุ 76 ปี สองสามีภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 49/133 หมู่บ้านไปรษณีย์ ซ.พหลโยธิน 48 แยก 56 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องและเงินสดจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกองเลือดและมีหยดเลือดอยู่ตามทางหลังบ้าน ซึ่งคาดว่าเป็นทางที่คนร้ายปีนกำแพงหลังบ้านหลบหนี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายธิพันธ์ธร ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆ ของผู้ตายมีพฤติกรรมน่าสงสัย หลังเกิดเหตุได้หายไปจากบ้านและเคยมีประวัติเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวเพื่อมาสอบสวน จนสามารถจับกุมตัวนายธิพันธ์ธร ได้ที่ สน.พหลโยธิน หลังเจ้าตัวทำทีเข้าไปแจ้งความเพื่อปิดบังอำพรางว่าถูกโชเฟอร์แท็กซี่ทำร้าย ซึ่งที่จริงแล้ว แผลที่ฝ่ามือขวานั้นมาจากการต่อสู้ขัดขืนของผู้ตาย
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ กล่าวต่อว่า นายธิพันธ์ธร ไม่ได้ทำงานอะไร แต่หลอกคนในบ้านว่ามีงานทำแล้ว และจะออกจากบ้านไปข้างนอกตั้งแต่เช้ากลับเข้ามาตอนเย็น แต่ไม่ได้ไปทำงาน ซึ่งสาเหตุที่ได้ก่อเหตุครั้งนี้ เนื่องจาก นายธิพันธ์ธร ได้ไปติดพนันบอลในเว็บไซต์รับพนันบอล และกำลังถูกติดตามทวงหนี้ จึงแอบลักลอบเข้าไปในบ้านของตากับยายทั้งสองคน ซึ่งเป็นตายายแท้ๆ ของนายธิพันธ์ธร ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของตนเอง ในขณะนั้นคนในครอบครัวออกไปข้างนอกกันหมด โดยขณะที่นายธิพันธ์ธร กำลังเดินเข้าไปในบ้านนั้น ก็พบกับนางมาลัย นอนดูโทรทัศน์อยู่ นางมาลัยได้สังเกตเห็นนายธิพันธ์ธร สะพายกระเป๋าท่าทางแปลกๆ จึงขอดูว่าในกระเป๋ามีอะไรอยู่ เนื่องจากเกรงว่านายธิพันธ์ธรจะเข้ามาขโมยของในบ้านอีก แต่นายธิพันธ์ธรไม่ยอม จึงมีการยื้อยุดฉุดกระชาก และนางมาลัยเรียกให้ส.ท.สมหมาย มาช่วย จนนายธิพันธ์ธร เกิดความโมโห และใช้มีดปลายแหลมแทงทั้งสองคนจนเสียชีวิต
จากการสอบสวนนายธิพันธ์ธร ให้การว่า ตนติดหนี้เว็บไซต์พนันบอลจำนวน 20,000 บาท และต้องหาเงินมาจ่ายก่อนวันจันทร์ที่ 1 ก.ค.นี้ แต่ไม่รู้ว่าจะหามาจากที่ไหน จึงคิดว่าจะเข้าไปแอบขโมยสร้อยคอทองคำ ของตากับยายในบ้าน โดยเลือกลงมือในวันศุกร์ ซึ่งไม่มีใครอยู่บ้าน แต่เมื่อเดินเข้าไปยายกลับมาขอค้นดูในกระเป๋าตน ซึ่งในนั้นมีเสื้อ หนังสือ และมีดปลายแหลม ซึ่งตนได้เอาเสื้อกับหนังสือให้ยายดู แต่ยายไม่เชื่อ บอกว่าอยากจะดูให้หมด พร้อมทั้งกับดุด่าว่าตนจะต้องเข้ามาลักขโมยของในบ้านอีกแน่ เนื่องจากตนเคยเข้าไปขโมยของในบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง
“นอกจากนี้ยายยังด่าว่าจะไม่สนใจอีกแล้ว เพราะเตือนอะไรก็ไม่เคยฟัง ทำให้ผมรู้สึกน้อยใจว่ายายไม่สนใจ ต้องอยู่ตัวคนเดียว และเกิดความโมโห เมื่อสบโอกาสตอนที่ยายเมินหนีชักมีดปลายแหลมในกระเป๋าสะพายออกมา แต่ยายหันหน้ามาเจอพอดี จึงเกิดการแย่งมีด ระหว่างนั้นยายเรียกตาให้มาช่วย ผมจึงสะบัดมีดไปทางตา ขณะที่ตาวิ่งเข้ามา มีดก็โดนตาจนทรุดลงและเสียชีวิต จากนั้นผมก็หันมาใช้มีดแทงยายอีกคน” นายธิพันธ์ธร กล่าว
นายธิพันธ์ธร กล่าวว่า จากนั้นตนได้หยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ตา มีอยู่ประมาณ 200 บาท และพระเครื่องจำนวนหนึ่งในกระเป่าถือก่อนปีนกำแพงด้านหลังบ้านหนีออกไป แล้วเดินลุยป่าหลังบ้านไปโผล่ซอยถัดไป แต่คิดว่าคงไปไม่รอด เพราะไม่มีเงิน จึงทำทีไปแจ้งความหลอกว่าถูกแท็กซี่ทำร้าย เพื่ออำพรางคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายธิพันธ์ธร ไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนละแวกใกล้เคียงมามุงดูการทำแผนฯ เป็นจำนวนมาก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป