พระนครศรีอยุธยา - นักศึกษา ปวช.กรุงเก่า ยกพวกไล่ถล่มกันก่อนมีเสียงระเบิดดังขึ้นได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ตำรวจพระนครศรีอยุธยา เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหาตัวนักศึกษาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (22 พ.ย.) ร.ต.ท.เปล่ง พานแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุนักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาท ใช้ระเบิดขว้างใส่บนรถสองแถวรอบเมือง มีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย ช่องทางคู่ขนาน ขาเข้าพระนครศรีอยุธยา ใกล้กับศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เมื่อนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 10-2716 พระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณด้านหลังรถพบรอยเลือดกระจายเต็มพื้นรถ ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นนักศึกษาชั้น ปวช.ของวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 5 ราย ทราบชื่อแล้ว 3 รายคือ 1.นายธีระยุทธ คุ้มชุ่ม อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.3 ได้รับบาดเจ็บที่มือขวานิ้วมือขาดจำนวน 4 นิ้ว เหลือเพียงนิ้วโป้ง 2.นายธรรมนูญ บุญคล้ำ อายุ 16 ปีนักศึกษาชั้น ปวช.2 ได้รับบาดเจ็บมีบาแผลที่บริเวณท้องเป็นแผลฉกรรจ์ และ 3.นายอาทิตย์ อับโดนเลาะ อายุ 15 ปี ได้รับบาดเจ็บที่เปลือกตาขวา ส่วนอีก 2 รายซึ่งยังไมีทราบชื่อได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบสวนนายคำพัน จันทขัน อายุ 48 ปี คนขับรถโดยสารเปิดเผยว่า ขณะที่อยู่ระหว่างจอดรถรับผู้โดยสารอยู่ ได้มีนักศึกษาประมาณ 20 คน ถูกนักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งไล่มาแล้วได้วิ่งขึ้นมาบนรถ จากนั้นตนได้ขับรถออกมาได้ประมาณ 200 เมตร ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น แล้วได้ยินเสียงร้องครวญครางจึงขับมาพานักศึกษามาส่งที่โรงพยาบาล ส่วนระเบิดไม่ทราบว่าใครโยนเข้ามา หรือนักศึกษาในรถเป็นคนจุดระเบิดกันเอง
นักศึกษารายหนึ่งที่อยู่ในรถสองแถวให้ข้อมูลว่า ขณะที่ตนพร้อมเพื่อนยืนรอรถอยู่ได้มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งลงมาจากรถบัสประจำทางสายกรุงเทพฯ-อยุธยา แล้ววิ่งเข้ามาจะทำร้ายร่างกาย จึงได้วิ่งขึ้นรถสองแถวที่จอดอยู่แล้วได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ไม่ทราบว่าใครเป็นคนโยนเข้ามา
พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มนักศึกษา 2 กลุ่มมาเจอกัน กลุ่มของผู้บาดเจ็บได้หนีขึ้นไปบนรถ โดยมีกลุ่มต่างสถาบันวิ่งตามไปแล้วเกิดมีเสียงระเบิดขึ้น น่าจะเกิดจากการที่กลุ่มของผู้บาดเจ็บพยายามที่จะโยนระเบิดที่ทำขึ้นเองออกไป แต่ระเบิดเกิดขึ้นก่อน ทำให้นักศึกษาในรถได้รับบาดเจ็บ หรืออาจจะถูกนักศึกษาต่างสถาบันที่วิ่งไล่ตามมาปาระเบิดเข้าไป ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาตัวนักศึกษาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
