ตำรวจบึงกุ่มรับแจ้งเหตุฆาตกรรมโหดคนร้ายใช้อาวุธขวานจามหัวอดีตแฟนสาวแม่ค้าขายเสื้อผ้าตายคาที่ภายในตลาดปัฐวิกรณ์ ต่อหน้าต่อตาเพื่อนที่พยายามอ้อนวอนขอร้องคนร้ายแต่ไม่เป็นผล คนร้ายยังกระหน่ำฟันอีกนับสิบก่อนจะขึ้น จยย.หลบหนี ตร.เร่งล่าตัวเพราะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ล่าสุดออกหมายจับมือขวานโหดรายนี้แล้ว
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.อ.วรินพร เศรษฐะ พนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุบริเวณตลาดปัฐวิกรณ์ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบแล้วรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงศรี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สน.บึงกุ่ม พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจาก รพ.ตำรวจ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นตลาดนัดขายเสื้อผ้าและของมือสอง ที่ข้างร้านพบศพ น.ส.อนงนิจ แซ่ด่าน หรือเจี๊ยบ อายุ 36 ปี สวมเสื้อแขนกุดลายลูกไม้สีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน สวมรองเท้าบูตสีม่วง พบบาดแผลถูกที่กะโหลกศีรษะทางด้านหลัง จนหนังกะโหลกเปิดออกทั้งหมด โดยชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะยังกระเด็นไปไกลกว่า 5 เมตร นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่ากระเป๋าใส่เงินของผู้ตายซึ่งมีเงินหลายหมื่นบาท และกุญแจรถยนต์หายไป
น.ส.ธัญธิตา คูหา อายุ 42 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดดังกล่าว ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาตนเองและผู้ตายพร้อมเพื่อนอีก 3 คนนั่งกินข้าวอยู่ที่ข้างร้านของผู้ตาย จนเวลาประมาณ 20.00 น. นายยุทธพงศ์ บุญส่ง อายุ 42 ปี แฟนเก่าของผู้ตายได้ถือขวานห่อกระดาษหนังสือพิมพ์เดินปรี่เข้ามาหา เมื่อเดินมาถึงกลุ่มที่นั่งอยู่ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง หยิบขวานออกมาฟันที่ศีรษะผู้ตายหลายครั้ง โดยที่เพื่อนผู้ตายพยายามดึงผู้ตายออกมาพร้อมร้องขอชีวิตผู้ตาย แต่คนร้ายก็ยังแสดงความโหดเหี้ยมด้วยการฟันซ้ำอีกหลายสิบครั้งจนแน่ใจผู้ตายเสียชีวิตแล้วจึงเดินออกไปขึ้นจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนนวมินทร์ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม เปิดเผยว่า ผู้ตายมีอาชีพเปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ในตลาดและเป็นคนหน้าตาดี โดยคนร้ายนั้นเป็นแฟนเก่าของผู้ตายเอง บ้านเดิมอยู่ใน จ.นครปฐม และมีอาชีพเปิดร้านขายของเก่าแบบไม่ประจำอยู่ในตลาดเดียวกัน ซึ่งคนร้ายได้เลิกกับผู้ตายมาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังตามตื๊อผู้ตายอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ยังอยู่ด้วยกันคนร้ายก็ได้ทำร้ายร่างกายผู้ตายเรื่อยมาจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายต้องขอเลิกและเก็บเสื้อผ้าหนีไปอาศัยอยู่น้องสาวที่ย่านรามอินทรา และเมื่อวานนี้ทางผู้ตายพยายามจะเดินทางไปแจ้งความว่าได้ถูกคนร้ายข่มขู่จะทำร้ายถ้าไม่กลับไปคืนดี แต่ผู้ตายก็ไม่ได้เดินทางไปแจ้งความเพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งจับกุม เนื่องจากเป็นคดีอุกฉจกรรจ์ และคนร้ายมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สน.บึงกุ่ม เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังเกิดเหตุได้สอบปากคำไปแล้วจำนวน 5 ปาก จากการสอบปากคำญาติผู้ตายก็ระบุตรงกันว่า ทั้งคู่ได้แยกทางกันมา 1 ปีกว่าแล้ว และผู้ตายก็หนีมาอยู่กับญาติย่านรามอินทราก่อนมาขายเสื้อผ้าที่ตลาดปัฐวิกรณ์ อีกสาเหตุที่หลบหนีมาเพราะทนที่นายยุทธพงศ์ชอบหึงหวงและทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง แต่นายยุทธพงศ์ก็ยังตามมาเจอจนก่อเหตุสลดดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมคนร้ายอย่างใกล้ชิด ซึ่งคนร้ายยังกบดานอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกรงว่าคนร้ายจะเคลื่อนไหวหลบหนี โดยวันนี้จะให้ทางพนักงานสอบสวนไปขออนุมัติหมายจับนายยุทธพงศ์ สามีเก่า น.ส.อนงนิจ จากศาลอาญา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เบื้องต้นคาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเร็วนี้
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.อ.วรินพร เศรษฐะ พนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุบริเวณตลาดปัฐวิกรณ์ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบแล้วรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงศรี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สน.บึงกุ่ม พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจาก รพ.ตำรวจ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นตลาดนัดขายเสื้อผ้าและของมือสอง ที่ข้างร้านพบศพ น.ส.อนงนิจ แซ่ด่าน หรือเจี๊ยบ อายุ 36 ปี สวมเสื้อแขนกุดลายลูกไม้สีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน สวมรองเท้าบูตสีม่วง พบบาดแผลถูกที่กะโหลกศีรษะทางด้านหลัง จนหนังกะโหลกเปิดออกทั้งหมด โดยชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะยังกระเด็นไปไกลกว่า 5 เมตร นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่ากระเป๋าใส่เงินของผู้ตายซึ่งมีเงินหลายหมื่นบาท และกุญแจรถยนต์หายไป
น.ส.ธัญธิตา คูหา อายุ 42 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดดังกล่าว ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาตนเองและผู้ตายพร้อมเพื่อนอีก 3 คนนั่งกินข้าวอยู่ที่ข้างร้านของผู้ตาย จนเวลาประมาณ 20.00 น. นายยุทธพงศ์ บุญส่ง อายุ 42 ปี แฟนเก่าของผู้ตายได้ถือขวานห่อกระดาษหนังสือพิมพ์เดินปรี่เข้ามาหา เมื่อเดินมาถึงกลุ่มที่นั่งอยู่ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง หยิบขวานออกมาฟันที่ศีรษะผู้ตายหลายครั้ง โดยที่เพื่อนผู้ตายพยายามดึงผู้ตายออกมาพร้อมร้องขอชีวิตผู้ตาย แต่คนร้ายก็ยังแสดงความโหดเหี้ยมด้วยการฟันซ้ำอีกหลายสิบครั้งจนแน่ใจผู้ตายเสียชีวิตแล้วจึงเดินออกไปขึ้นจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนนวมินทร์ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม เปิดเผยว่า ผู้ตายมีอาชีพเปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ในตลาดและเป็นคนหน้าตาดี โดยคนร้ายนั้นเป็นแฟนเก่าของผู้ตายเอง บ้านเดิมอยู่ใน จ.นครปฐม และมีอาชีพเปิดร้านขายของเก่าแบบไม่ประจำอยู่ในตลาดเดียวกัน ซึ่งคนร้ายได้เลิกกับผู้ตายมาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังตามตื๊อผู้ตายอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ยังอยู่ด้วยกันคนร้ายก็ได้ทำร้ายร่างกายผู้ตายเรื่อยมาจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายต้องขอเลิกและเก็บเสื้อผ้าหนีไปอาศัยอยู่น้องสาวที่ย่านรามอินทรา และเมื่อวานนี้ทางผู้ตายพยายามจะเดินทางไปแจ้งความว่าได้ถูกคนร้ายข่มขู่จะทำร้ายถ้าไม่กลับไปคืนดี แต่ผู้ตายก็ไม่ได้เดินทางไปแจ้งความเพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งจับกุม เนื่องจากเป็นคดีอุกฉจกรรจ์ และคนร้ายมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สน.บึงกุ่ม เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังเกิดเหตุได้สอบปากคำไปแล้วจำนวน 5 ปาก จากการสอบปากคำญาติผู้ตายก็ระบุตรงกันว่า ทั้งคู่ได้แยกทางกันมา 1 ปีกว่าแล้ว และผู้ตายก็หนีมาอยู่กับญาติย่านรามอินทราก่อนมาขายเสื้อผ้าที่ตลาดปัฐวิกรณ์ อีกสาเหตุที่หลบหนีมาเพราะทนที่นายยุทธพงศ์ชอบหึงหวงและทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง แต่นายยุทธพงศ์ก็ยังตามมาเจอจนก่อเหตุสลดดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมคนร้ายอย่างใกล้ชิด ซึ่งคนร้ายยังกบดานอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกรงว่าคนร้ายจะเคลื่อนไหวหลบหนี โดยวันนี้จะให้ทางพนักงานสอบสวนไปขออนุมัติหมายจับนายยุทธพงศ์ สามีเก่า น.ส.อนงนิจ จากศาลอาญา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เบื้องต้นคาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเร็วนี้