ตำรวจบางเขน รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าในบ้านพักภายในหมู่บ้านไปรษณีย์นิเวศ กลางวันแสกๆ ตรวจสอบพบเป็นอดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามรุ่น 1 พร้อมเมียถูกกระหน่ำแทงดับอนาถ คาดคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์
วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.45 น. พ.ต.ท.แบ๊งค์ บัวนวล พงส.ผนพ.สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 49/133 หมู่ 4 หมู่บ้านไปรษณีย์นิเวศน์ซอย 1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน แพทย์ รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา มีร่องรอยหยดเลือดปรากฏรอบบ้าน ภายในบ้านพบร่องรอยรื้อค้นกระจุยกระจาย ที่หน้าห้องนอนพบศพนางมาลัย บุญโต อายุ 76 ปี สภาพศพสวมเสื้อลายดอกใส่ผ้าถุง นอนตะแคงเสียชีวิต โดยถูกแทงด้วยของมีคมจำนวน 12 แผล มีแผลฉกรรจ์ถูกปาดคอ ภายในห้องนอน พบศพ ส.ท.สมหมาย บุญโต อายุ 81 ปี อดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามรุ่น 1 ข้าราชการบำนาญการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน นอนคว่ำ หัวหันไปทางเตียงนอน ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ลิ้นปี่และหน้าอกเสียชีวิตจมกองเลือด บริเวณหิ้งบูชาพระในห้อง มีรอยรื้อค้นทรัพย์สินกระจุยกระจายและคราบเลือด ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทาดำต้องสงสัยว่าเป็นของคนร้าย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นางสุภาพร บุญโต อายุ 56 ปี ลูกสาวคนตายให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่กัน 6 คน แบ่งกันอยู่โดยมีบ้านอีกหลังอยู่ในรั้วเดียวกัน ปกติพ่อกับแม่จะอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ ตนจะดูแลพ่อกับแม่ โดยพ่อจะดูโทรทัศน์ในห้อง ส่วนแม่ก็จะเย็บผ้ากับจักรอยู่ในบ้าน ก่อนเกิดเหตุตนออกจากบ้านตอน 11.30 น.เพื่อไปทำธุรกรรมที่ธนาคารในห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เมื่อกลับมาตอนเวลา 14.00 น. เห็นสุนัขที่พ่อเลี้ยงไว้ อยู่นอกตัวบ้าน ทั้งที่ปกติสุนัขจะอยู่แต่ในตัวบ้าน ไม่ได้ออกมาก็เกิดสงสัย จึงตะโกนเรียกพ่ออยู่นาน พ่อก็ไม่ได้ออกมา เมื่อดูที่ประตูบ้านพบว่าล็อกกุญแจบ้านปิดมิดชิด ผิดปกติ จึงเดินอ้อมไปทางหลังบ้าน ซึ่งมีบ้านอีกหลังติดกันภายในรั้วเดียวกัน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ถึงกับตกใจ เพราะเห็นคราบเลือดเป็นทางยาว ก่อนจะเห็นศพพ่อกับแม่ของตน จึงรีบเรียกคนแถวนั้นมาช่วยคิดว่าอาจจะยังไม่ตาย แต่เห็นบาดแผลกับเลือดออกมาแยะ คิดว่าเสียชีวิตแน่นอน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายมีมากกว่า 1 คน เข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงสองตายายร่วมกว่า 10 แผล ทำให้เสียเลือดมากเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มีการรื้อค้นทรัพย์สิน เพื่อหาทรัพย์สินบางอย่าง แต่ไม่ได้ไป ทั้งนี้คนร้ายได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมบาด ซึ่งจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรพ.ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเผื่อคนร้ายมารักษาตัว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง ส่วนประเด็นการฆาตกรรมนั้น ยังไม่มุ่งไปทางใดทางหนึ่ง ขอสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาข้อเท็จจริงและไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุ ประมาณ 2-3 วัน มีผู้ชาย 2 คนเดินทางมาสอบถามบ้านของผู้เสียชีวิต และวันนี้ในช่วงเที่ยง มีชาย 2 คน คนแรกสูง 170 เซนติเมตร สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำสภาพเก่า ทั้งสองคนรูปร่างสันทัด เดินทางมาถามหาบ้านผู้ตายที่ร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอย ส่วนปมเหตุฆาตกรรมนั้น เจ้าหน้าที่มุ่งที่ประเด็นชิงทรัพย์ เพราะผู้ตายสะสมพระเครื่องรุ่นเก่า มีพระใส่กรอบเลี่ยมทองเก็บไว้ แต่ตอนเกิดเหตุ ทางลูกหลานผู้ตายได้ค้นหาพบว่าสร้อยพระเลี่ยมทองหายไปเป็นพวงยังไม่ทราบมูลค่า อย่างไรก็ดีทางญาติจะตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดอีกครั้งว่ามีทรัพย์สินใดหายไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้หลังก่อเหตุคนร้ายได้รับบาดเจ็บไปล้างมือที่หลังบ้านแล้วหลบหนีไป มีพยานเห็นคนสภาพตัวเปียกน้ำเดินไปทางหลังของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบึงน้ำหญ้ารกร้างดังกล่าว