กลุ่มแม่บ้านแจ้งตำรวจกองปราบปรามจับ 18 มงกุฎหลอกขายของเล่นเด็กทางเฟซบุ๊กกลุ่ม “คลับมังกรตุลย์ 55”
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. นางเอ (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 36 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว พร้อมกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นแม่บ้านซึ่งพาลูกๆ มาด้วยจำนวน 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทองศูนย์ อุ่นวงศ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนางจิตตานันท์ หรือฝน สิริพราหมณกุล อายุ 31 ปี หลังจากถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าประเภทเครื่องแต่งกาย และของเล่นเด็ก รวมทั้งตั้งวงเล่นแชร์แล้วถูกเชิดเงิน รวมมูลค่าเสียหายหลายแสนบาท โดยนำสลิปการโอนเงิน และเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นางเอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าเป็นสมาชิกในเว็บไซต์เฟซบุ๊กกลุ่ม “คลับมังกรตุลย์ 55” ซึ่งมีสมาชิกอยู่กว่า 1,000 คน มีกิจกรรมร่วมกัน คือ การเล่นเกมในคลับเพื่อพัฒนาทักษะของเด็ก การให้ข้อมูลความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก กระทั่งช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จึงได้รู้จักกับนางจิตตานันท์ ที่ใช้ชื่อว่า “Fon Jittanun” ซึ่งเข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มและชักชวนให้ซื้อสินค้าต่างๆ เช่นเสื้อผ้าเด็ก รองเท้า ของเล่นประเภทต่างๆ โดยมีการโพสต์ภาพลงในเฟสบุ๊กกลุ่มซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาด
นางเอ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนได้สั่งซื้อสินค้าซึ่งระยะแรกก็มีการจัดส่งสินค้าให้จริงทางพัสดุไปรษณีย์ แต่ต่อมาเมื่อสั่งซื้อสินค้าเพิ่มกลับไม่ได้รับสินค้าแต่อย่างใด และพบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อของนางจิตตานันท์ นอกจากนี้ เจ้าตัวยังมีวิธีการหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นเพื่อหลบเลี่ยงการติดตามตรวจสอบ และใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการซื้อสินค้ามาส่ง เมื่อตนกับกลุ่มผู้เสียหายเริ่มระแคะระคายจึงรวมตัวกันแจ้งเตือนข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์พันทิป เพื่อแจ้งเตือนไม่ให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่อ และเร่งติดตามตัวนางจิตตานันท์ตามข้อมูลที่มีอยู่ โดยพบว่าได้พักอาศัยอยู่กับสามีที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก นอกจากนี้ตนกับเพื่อนๆ ผู้เสียหายในกลุ่มอีก 6 คนยังถูกนางจิตตานันท์หลอกลวงเล่นแชร์ผ่านทางเฟซบุ๊ก รวมมูลค่าความเสียหายอีก 120,000 บาท จึงพากันเข้าแจ้งความในครั้งนี้เพื่อขอให้ตำรวจช่วยสืบสวนติดตามตัวนางจิตตานันท์มาดำเนินคดีด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ทองศูนย์กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ในเบื้องต้น โดยจะทยอยสอบปากคำผู้เสียหายก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการโดยอาจมีการรวมผู้เสียหายเป็นคดีเดียวกัน ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน