เผยรายย่อยเดือด! ระบบเทรดหุ้นผ่านเน็ตล่ม เรียกร้อง ตลท. แสดงความรับผิดชอบ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจงระบบซื้อขายหุ้นทางเน็ตล่ม 20 นาที เกิดจากปัญหาของฮาร์ดแวร์ พร้อมยอมรับระบบที่มีปัญหาเป็นเรื่องสุดวิสัย โบรกฯ เผยรายย่อยโดนผลกระทบเต็มๆ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นกลายเป็นประเด็นร้อน ถือเป็นหัวข้อที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่าดุเดือดในห้องสินธน เว็บพันทิป พร้อมเรียกร้องให้ผู้บริหาร ตลท. แสดงความรับผิดชอบ ทั้งในเรื่องการเสียโอกาส และการผิดความเสี่ยงของนักลงทุน

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวชี้แจงกรณีระบบซื้อขายระบบอินเทอร์เน็ตผ่าน Settrade Streaming ของ ตลท. เกิดปัญล่มนาน 20 นาที เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 16.10 น. จนกระทั่งปิดการซื้อขายในเวลา 16.30 น. ทำให้มีคำสั่งซื้อขายของนักลงทุนที่ส่งผ่านระบบออนไลน์ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากนั้น เกิดจากปัญหาของฮาร์ดแวร์

“กรณีดังกล่าวส่งผลให้การซื้อขายหลักทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ตมีปัญหา แต่โบรกเกอร์ก็มีทางเลือกอื่นให้แก่ลูกค้า และสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ พยายามแก้ไขเพื่อให้ระบบกลับมาปกติทันการซื้อขายอนุพันธ์ในช่วงกลางคืนในรอบถัดไป”

นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลท. ยอมรับว่า ระบบที่มีปัญหาเป็นเรื่องสุดวิสัย ซึ่งทางเซ็ตเทรดได้แจ้งให้โบรกเกอร์ทราบ เพื่อลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) แทน และให้เจ้าของระบบรีบดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ทันการซื้อขายอนุพันธ์ภาคกลางคืน

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า นักลงทุนที่ซื้อขายทางออนไลน์มีการเปิดบัญชี 2 ประเภท ประเภทแรก คือ ลูกค้าสามารถสั่งซื้อขายได้ 2 ช่องทาง คือ ทั้งมาร์เกตติ้ง และอินเทอร์เน็ต ส่วนประเภทที่สอง คือ เทรดทางอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่วนหลังมักจะเป็นนักลงทุนรายย่อย

ทั้งนี้ มองว่าระบบที่มีปัญหาอาจจะซื้อขายไม่ทันบ้าง แต่ภาวะตลาดหุ้นไม่ได้อยู่ในช่วงขาลง ทำให้เกิดความเสียหายไม่มากนัก ซึ่งตนได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งจะมีการจัดทำระบบสำรองมารองรับไว้

ด้านมาร์เกตติ้ง ชี้แจงว่า ลูกค้าไม่ได้รับความเสียหายจากการซื้อขายหุ้นไมได้ เพราะสามารถส่งคำสั่งผ่านมาร์เกตติ้งได้ แต่จะมีค่าธรรมเนียม (คอมมิชชัน) ในอัตรา 0.25% ของมูลค่าการซื้อขายไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่จ่ายในอัตรา 0.22% เท่านั้น

กรณี Settrade Streaming ล่มตกเป็นหัวข้อในการวิพากษ์วิจารณ์มากในห้องสินธน เว็บไซต์พันทิป จนมีการเรียกร้องให้ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้ามารับผิดชอบในเรื่องการเสียโอกาส และการผิดความเสี่ยงของนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม กรณีระบบซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตล่มครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายโดยรวม โดยดัชนีหุ้นวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. ปิดลดลงเล็กน้อย 1.69 จุด ที่ระดับ 1,400.50 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายมากถึง 79,035.17 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขาย จำนวน 3,483.91 ล้านบาท นับว่าน้อยกว่าวันก่อนหน้าที่ทิ้งหนักกว่า 6,000 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ ซึ่งปรับตัวลงเฉลี่ย 1% โดยตลาดหุ้นอินโดนีเซียรูดลงแรงที่สุด 2.48% แม้ว่าตลาดหุ้นไทยในภาคเช้าทรุดลงแรงถึง 47.57 จุด ซื้อขายที่บริเวณ 1,354.62 จุด หลังจากมีข่าวลือว่า รัฐบาลจะจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น และมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน นำโดยหุ้น ปตท. (PTT) ที่ตีตื้นขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับต่ำสุดที่ 327 บาท จนขึ้นไปสูงสุดที่ 340 จุด ก่อนมาปิดที่ 338 บาท บวก 4 บาท