ศาลแพ่งสืบพยาน “บ.ศรีสุบรรณฟาร์ม” ฟ้องละเมิด “เฉลิม อยู่บำรุง-ก.มหาดไทย” เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน กรณีกล่าวหารุกที่ดินสาธารณะใน จ.สุราษฎร์ธานี เฉลิมอ้างนักข่าวขอสัมภาษณ์ ไม่เจตนาให้เสียชื่อเสียง
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ห้องพิจารณาคดี 403 ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีที่ บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด บริษัทในครอบครัวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้อง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีและอดีต รมว.มหาดไทย เป็นจำเลยที่ 1 และกระทรวงมหาดไทยเป็นจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2551 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่กระทรวงมหาดไทย มีใจความว่า ที่ อ.คีรีรัฐนิคม มีการบุกรุกที่ดินทางราชการ 2,000 กว่าไร่ เป็นการเอาทรัพย์สินของชาติไปครอบครองโดยมิชอบ ใช้วิธีคลาสสิกให้ชาวบ้านครอบครองที่ดินแล้วรวมกลุ่มกันไปขายให้นักธุรกิจ และขายให้บริษัทอีกกลุ่มหนึ่งเอาไปจำนองแบงก์ ขายทอดตลาด แล้วมีบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ไปซื้อ เป็นการได้ที่ดินมาโดยมิชอบจะให้กรมที่ดินไปดำเนินการตรวจสอบและเพิกถอน ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง
โดยในวันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จำเลยที่ 1 เบิกความว่า ขณะเกิดเหตุผู้สื่อข่าวได้ขอสัมภาษณ์ตนเองเรื่องการบุกรุกที่ดิน จึงได้ให้สัมภาษณ์ว่ามีการบุกรุกที่ดินที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งบริษัทเอกชนได้ให้ชาวบ้านไปจับจองที่ดิน จากนั้นไปวิ่งเต้นกับเจ้าหน้าที่ราชการที่ฉ้อฉลเพื่อให้ได้เอกสารสิทธิในที่ดิน แล้วเอาไปขายให้บริษัทที่ 2 ต่อมาบริษัทที่ 2 ได้นำไปจำนองกับธนาคาร ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของตน ไม่ได้หมายถึงบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัดแต่อย่างใด และก็ไม่ทราบว่าลูกชายกับลูกสาว เป็นกรรมการบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ซึ่งกรณีดังกล่าวก็เนื่องมาจากมีชาวบ้านมาร้องเรียน ตนในฐานะ รมว.มหาดไทย จึงสั่งการด้วยวาจาให้รักษาการอธิบดีกรมที่ดินลงไปตรวจสอบ และมาทราบภายหลังจากสื่อมวลชนว่า กรมที่ดินได้สั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินใน จ.สุราษฎร์ธานี ยืนยันว่าการตรวจสอบและสั่งเพิกถอนสิทธิดังกล่าวเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ของกรมที่ดิน
ขณะที่ทนายความโจทก์ได้ซักค้านว่า จำเลยที่ 1 ทราบหรือไม่ว่า ภายหลังกรมที่ดินสั่งเพิกถอนสิทธิ์ในที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานีแล้ว โจทก์ได้ไปยื่นฟ้องศาลปกครอง และศาลปกครองได้มีคำพิพากษาว่า การสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่ทราบและไม่มีเจตนาจะทำให้บริษัทศรีสุบรรณฟาร์มได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ตนกับสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่เคยมีความขัดแย้งส่วนตัว จะมีก็แต่การฟ้องร้องกันในประเด็นเกี่ยวกับการเมืองเท่านั้น
ภายหลังเบิกความเสร็จ ร.ต.อ.เฉลิมได้นั่งรถยนต์ยี่ห้อโรลส์รอยซ์ กลับทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด