xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ฝากขัง-ค้านประกัน “ไอ้เบิ้ม” ร่วมฆ่า “เอกยุทธ อัญชันบุตร”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตำรวจฝากขัง “ไอ้เบิ้ม” ผู้ต้องหาร่วมฆ่า “เอกยุทธ อัญชันบุตร” พร้อมค้านประกัน เหตุคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวเกรงจะหลบหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (15 มิ.ย.) ร.ต.ท.ณฐพล ดีผลงาม พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลวง ได้นำตัว นายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม พิมพิสาร อายุ 27 ปี ชาว จ.พัทลุง ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจด้านการเงิน และอสังหาริมทรัพย์มายื่นคำร้องต่อศาลฝากขังครั้งแรก

โดยระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 6-9 มิ.ย.2556 เวลากลางคืน ผู้ต้องหากับพวกอีก 3 คนที่ฝากขังต่อศาลแล้ว ได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โดยแบ่งหน้าที่กันทำด้วยการวางแผน และตกลงร่วมใจกันมาก่อนที่จะปล้นทรัพย์นายเอกยุทธ ผู้ตาย โดยใช้อาวุธปืนขนาด .38 ของนายเอกยุทธ จี้ ขู่บังคับ ประทุษร้าย กักขัง หน่วงเหนี่ยวนายเอกยุทธ ในรถตู้ยี่ห้อโฟล์ค สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กทม. จากร้านอาหารครัวกระแต ย่านสะพานควาย แล้วขับรถคันดังกล่าวคุมตัวนายเอกยุทธ ไปกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ที่ชั้น 2 บ้านพักเลขที่ 1213/360 ย่านทาวน์อินทาวน์ ของนายเอกยุทธ ต่อเนื่องถึงบ้านเลขที่ 339/226 หมู่บ้านราชพฤกษ์ แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. บ้านพี่สาวนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง คนขับรถผู้ต้องหาร่วม เพื่อบังคับเอาทรัพย์สินของนายเอกยุทธ

จากนั้นผู้ต้องหากับพวกอีก 3 คน ได้ร่วมกันบังคับขู่เข็ญให้นายเอกยุทธ ลงลายมือชื่อในเช็คของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีวรา สั่งจ่ายเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท และออกเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาทองหล่อ รวม 2 ฉบับ สั่งจ่ายเงินจำนวน 1.7 ล้านบาท และ 1.8 ล้านบาท ตามลำดับ รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท จนผู้ต้องหาได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 5 ล้านบาท เป็นของตนเองโดยทุจริต จากนั้นผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อปกปิดความผิดที่กระทำไว้ข้างต้น แล้วแจ้งให้พวกจัดเตรียมสถานที่ฝังศพเป็นที่ดินรกร้าง ต.เขาจิงโจ้ อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อปิดบังซ่อนเร้นการตายของนายเอกยุทธ ก่อนหลบหนีไป

ต่อมา ผู้ต้องหาได้เข้าพบ และมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมี และใช้อาวุธจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ทำลายศพ

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ส่วนข้อหาอื่นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจะครบกำหนดแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 20 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร รอผลการตรวจชันสูตรศพ รอผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ และวัตถุพยานจากกองพิสูจน์หลักฐาน รอผลการพิสูจน์ เอกลักษณ์ และลักษณะของดีเอ็นเอของศพ และเอกสารอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-26 มิ.ย นี้

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ทั้งคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี

ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายสุทธิพงศ์ ขึ้นรถบัสของเรือนจำไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยระหว่างเดินขึ้นรถนายสุทธิพงศ์ มีใบหน้าเรียบเฉย โดยมีบิดา และมารดาเดินทางมาส่งตัวลูกชายเข้าเรือนจำ






กำลังโหลดความคิดเห็น