ตร.วังทองหลาง เข้าค้นหลักฐานกรณีการหายตัวไปของ “เอกยุทธ” เก็บลายนิ้วมือแฝงบนที่เก็บฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดที่หายไป ด้านลูกชายยันมีเพียงคนในเท่านั้นที่รู้ ยังไม่ปักใจคนขับรถอุ้มเอง ขอให้ตำรวจเป็นผู้สรุป เผยคืนเกิดเหตุพ่อโทร.หา 3-4 ครั้ง แต่ปิดเครื่อง มารู้อีกทีพ่อหายไปแล้ว ชี้ประเด็นขัดแย้งนายตำรวจใหญ่ไม่น่าเป็นไปได้
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 10 มิ.ย.พ.ต.อ.สรรหกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.วังทองหลาง พ.ต.ท.วิวัฒน์ อัศววิบูลย์ สว.สส.พ.ต.อ.สง่า กรรณภิรมย์ ผกก.สส.น.4 พร้อมชุดสืบสวน นำกำลังเข้าตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมภายใน บ.ไทยอินไซค์เดอร์ จำกัด เลขที่ 1477 ซ.ทาวน์อินทาวน์ 3/2 หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง ของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่หายตัวไปอย่างปริศนา โดยมี นายก้องการุณ ศรีประสาน อายุ 33 ปี ลูกชายของนายเอกยุทธ นำเข้าไปในบริษัท โดยไม่ให้สื่อมวลตามเข้าไปด้านในบริษัท
รายงานข่าวแจ้งว่า ผบช.น.ได้สั่งกำชับให้ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบเอกสารและเส้นทางการเงินของนายเอกยุทธ รวมทั้งให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงที่เก็บข้อมูลกล้องวงจรปิด เพื่อนำไปเปรียบเทียนกับคนร้าย และเบาะแสเพิ่มเติมจากพนักงานในคืนวันเกิดเหตุ
นายก้องการุณ เปิดเผยว่า การหายตัวไปในครั้งนี้ตนยังไม่ทราบสาเหตุ และยังไม่ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนว่ามาจากสาเหตุใด เพราะตนยังไม่ชัดเจนต้องขอดูในรายละเอียดความขัดแย้งที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้อยากเจอหน้าพ่อ หรือรู้ว่าพ่อสบายดียังมีชีวิตอยู่ แล้วค่อยมาคุยเรื่องความขัดแย้งว่ามาจากประเด็นใด จะเป็นเรื่องคนขับรถร่วมกับแฟนสาวพนักงานที่ถูกไล่ออกไป เพราะยักยอกเงินไปกว่าล้านบาทนั้น ตนยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องนี้ ขอให้พ่อปลอดภัยก่อน ถึงแม้หากพ่อไม่อยู่ ตนก็จะสู้ให้ถึงที่สุด เพราะตนทำใจไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พ่อจะโทร.หาใครเป็นคนแรกหากเกิดเรื่องไม่ดี นายก้องการุณ กล่าวว่าในวันที่เกิดเหตุตอนประมาณ 5 ทุ่ม หลังจากที่พ่อไปทานเลี้ยงที่ร้านอาหารกระแต ย่านสะพานควาย ได้โทร.เข้ามือถือตน 3-4 สาย แต่ตนปิดเครื่องโทรศัพท์ พอมาดูข้อความมีสายเข้า จึงรีบมาที่บริษัท พบรถตู้จอดอยู่ แต่ในลักษณะที่ผิดปกติ ที่จะจอดเข้าที่จอดเรียบร้อย แต่ครั้งนี้กลับจอดอยู่ห่างจากที่จอดรถ และเป็นที่น่าสงสัยว่าเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บภาพวงจรปิดถูกนำไปด้วย เครื่องบันทึกภาพวงจรปิดต้องเป็นคนภายในเท่านั้นที่รู้และสามารถเอาออกไปได้ ส่วนความขัดแย้งอื่นก็ไม่มี ตนก็อยู่ได้โดยไม่ต้องระวังตัว ส่วนเรื่องที่พ่อไปมีความขัดแย้งกับนายตำรวจระดับผู้บัญชาการนั้น พ่อคงไม่ถึงขนาดนั้น ตอนนี้ตนขอเวลาทบทวนว่าพ่อถูกกระทำอย่างนี้เพราะอะไร และอยากเจอกับคนขับรถเพื่อได้ถามเรื่องราว ตอนนี้ขอให้พ่อปลอดภัยเท่านั้น นายก้องการุณ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนขอตัวเดินเข้าไปในออฟฟิศเพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ