ตร.พาผู้ต้องหาสังหาร “เอกยุทธ อัญชันบุตร” ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเส้นทางลงมือฆ่า “เอกยุทธ” อย่างมีเงื่อนงำ โดยผู้ต้องหาไม่ได้ซัดทอดถึงทีมสังหารมืออาชีพ
วันนี้ (13 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ควบคุมตัว นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยได้หายตัวไปพร้อมกับรถตู้โฟล์คสวาเก้น สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กรุงเทพมหานคร ตามที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ก่อนหน้านี้ โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นช่องจอดรถหมายเลข 8 ที่ระบุว่าได้มีการนำตัว นายเอกยุทธ มายังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบังคับให้เซ็นเช็ค 3 ฉบับ เบิกเงินสด 5 ล้านบาท โดยเช็คทั้ง 3 ฉบับ ลงวันที่ 7 มิ.ย. 2556 ประกอบด้วย เช็คเงินสด จำนวน 1.5 ล้านบาท 1 ฉบับ 1.7 ล้านบาท 1 ฉบับ และ 1.8 ล้านบาท 1 ฉบับ
โดยจุดที่ 2 เป็นบริเวณทางเข้าชั้น 2 ของอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเป็นจุดบังคับให้เซ็นเช็คและจุดจอดรถรอรับเงินริมทางยกระดับขาออกห่างจากตัวอาคารผู้โดยสารประมาณ 200 เมตร
จุดที่ 3 เป็นจุดที่นางสาวเสาวลักษณ์ ฉัตรลมัย ได้รับโทรศัพท์จากนายเอกยุทธให้ไปรับเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาทองหล่อ และให้นำไปให้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นางอิง เสมียนนำเงินสด 5 ล้านบาทใส่ซองสีน้ำตาลมามอบให้
จุดที่ 4 ผู้ต้องหาได้ขับรถพานายเอกยุทธ ไปบ้านพี่สาวของนายสันติภาพ เลขที่ 339/226 หมู่บ้านราชพฤกษ์ ถนนฉลองกรุง แขวงลำผักชี เขตลาดกระบัง ซึ่งเป็นจุดกักขังหน่วงเหนี่ยวชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าว
จุดที่ 5 เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ผู้ต้องหาได้นำตัวนายเอกยุทธ ขึ้นรถพร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ หรือ เบิ้ม พิมพ์สาร โดยมุ่งหน้าขึ้นสู่สะพานฉลองกรุง โดยนายเอกยุทธ ซึ่งอยู่เบาะหลังได้เปิดท้ายกระโดดออกจากรถและวิ่งหนีข้ามสะพานและกระโดดตกจากสะพานจนขาเจ็บ ผู้ต้องหาจึงได้วิ่งไปจับกุมและมีการต่อสู้กัน
จุดที่ 6 ต่อจากนั้นนายสันติภาพคนขับรถได้พานายเอกยุทธ มาถึงสะพานฉลองกรุง 6 แต่นายเอกยุทธ ได้ร้องขอความช่วยเหลือนายสุทธิพงษ์ หรือ เบิ้ม พิมพ์สาร ซึ่งนั่งประกบนายเอกยุทธ จึงได้ใช้เชือกรองเท้ามัดคอนายเอกยุทธ จนถึงแก่ชีวิต
จุดที่ 7 เมื่อรถวิ่งมาถึงมอเตอร์เวย์ขาออกเพื่อมุ่งหน้าลงใต้ นายสุทธิพงษ์ จึงได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของผู้ตายและโปรยทิ้งตามทาง
จุดที่ 8 เป็นจุดที่คนขับรถพานายเอกยุทธ มากินข้าวที่ร้านครัวกระแต เลขที่ 226 ถนนประดิพัทธ์ ตั้งอยู่ระหว่างซอยประดิพัทธ์ 18 กับ 20 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ตามที่นัดหมายไว้กับเพื่อน โดยนายเอกยุทธก็เดินทางมาถึงร้านเวลาประมาณ 18.10 น.ขึ้นไปรับประทานอาหารบนชั้น 2 กับสามีตน และเพื่อนรวม 5 คน หลังจากนั้นนายสันติภาพก็ได้ขับรถออกไปอ้างว่าเพื่อไปกินข้าวข้างนอก แต่กลับไปรับนายเบิ้ม มือฆ่ารัดคอที่ ซ.ประดิพัทธ์ 12 โดยแอบนั่งมาในรถด้วยกัน เพื่อรอจังหวะนายเอกยทุธ กินข้าวเสร็จและกลับขึ้นรถเวลาประมาณเกือบ 5 ทุ่ม
จุดที่ 9 ปาก ซ.ลาดพร้าว 3 หลังจากขับรถตู้ออกครัวกระแต เป็นจุดที่นายเบิ้ม ซึ่งหลบอยู่ข้างคนขับรถด้านซ้าย ได้แสดงเป็นคนร้าย กระโดดข้ามมานั่งประกบนายเอกยุทธไป ตลอดเส้นทาง โดยใช้มีดจี้ และจับใส่กุญแจ ก่อนมุ่งหน้าไปที่บ้านนายเอกยุทธ ซึ่งเปิดเป็นบริษัท ไทยอินไซเดอร์ จำกัด เลขที่ 1477 ซอยทาวน์อินทาวน์ 3/2 หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.ของนายเอกยุทธ เพื่อถอดเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บภาพวงจรปิด
จุดที่ 10 ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย ของการทำแผนในพื้นที่กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักย่านทาวน์ อินทาวน์ โดยผู้ต้องหาได้นำตัวนายเอกยุทธ มาที่บ้านพักก่อนที่จะบังคับให้นายเอกยุทธ โทรศัพท์ถึงพี่สาวเพื่อถามหากุญแจประตู จนเป็นที่ผิดสังเกตุ และจี้ตัวนายเอกยุทธไว้ภายในรถตู้ เพื่อรอเวลาหลบเลี่ยงด่านจากเวลา 5 ทุ่มเศษถึงประมาณ ดี 2.00 น. ก่อนพาตัวไปยังบ้านพี่สาวย่านลาดกระบังและลงมือฆ่าในที่สุด
โดยหลังการทำแผนเสร็จสิ้นจนท.ตร.ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปควบคุมตัวไว้ที่สน.วังทองวังหลาง ก่อนส่งตัวฝากขังศาลอาญาในวันพรุ่งนี้