ผบ.ตร.ตั้ง “ปานศิริ” เป็นหัวหน้าชุดสรุปสำนวนคดีฆาตกรรมอุ้มฆ่า “เอกยุทธ อัญชันบุตร” แบ่ง 3 ทีมสอบสวนฯ “นครบาล-ภ.9-ป.” ด้าน “จรัมพร” เผยเอกยุทธหนีเอาชีวิตรอดสุดชีวิต กระโดดสะพานหนีจนเท้ามีรอยฟกช้ำ เจอหลักฐานสำคัญกระดุมเสื้อ 3 เม็ด เชือกรองเท้าในหลุมฝังศพ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดสถานที่ก่อเหตุประมาณ 14 จุดรอบกรุง ท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำอย่างหนัก
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ในทางสืบสวนทางคดีตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุดสรุปสำนวนคดีของ สตช. โดยมี พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.เป็นรองหัวหัวหน้าชุด ซึ่งคดีนี้มีการเกิดเหตุหลายจุดจึงต้องตั้งทีมสอบสวนร่วมกันหลายภาคส่วน โดยถ้าเป็นในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯ จะให้ชุดสืบสวนนครบาลดูแลทั้งหมด ส่วนทางภูธรภาค 9 จะดูคดีที่เจอศพและเงิน และทางกองปราบปรามจะให้เน้นถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนร้าย ซึ่งตอนนี้ได้แจ้งข้อหาไปแล้ว 5 คน คือ นายสันติภาพ เพ็งด้วง และเพื่อนอีก 2 คนที่ถูกจับกุมได้ให้พนักงานสอบสวนเปลี่ยนข้อกล่าวหาเป็น “ฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” จากเดิมที่ตั้งข้อกล่าวหาไว้ “ปิดบังอำพรางเพื่อซ่อนเร้นศพ” ส่วนอีก 2 คน คือพ่อและแม่ของนายสันติภาพถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจร
อย่างไรก็ตาม ในการติดตามเซิร์ฟเวอร์ที่สูญหายไปนั้น ต้องรอให้จับกุมตัวนายเบิ้มให้ได้เสียก่อน หลังจากนั้นจะรวบรวมสรุปสำนวนวิเคราะห์สาเหตุการฆาตกรรมอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ผลชันสูตรศพพบว่าเป็นนายเอกยุทธ โดยการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือพบเป็นนายเอกยุทธจริง และพบว่าตรงบริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำคล้ายถูกรัดจนขาดอากาศหายใจ และข้อมือมีรอยเขียวช้ำตรงกับคำให้การที่ว่าจับใส่กุญแจมือ นอกจากนี้ ระหว่างการขุดค้นหาศพพบกระดุมเสื้อเม็ดใสจำนวน 3 เม็ด พร้อมกับเชือกคล้ายเชือกรองเท้า 1 เส้น ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นเชือกรองเท้าเส้นเดียวกันกับที่ใช้รัดคอนายเอกยุทธจนเสียชีวิตหรือไม่
พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวอีกว่า พบคราบเลือดจำนวนหนึ่งตรงเบาะหลังของรถตู้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า นายเอกยุทธได้พยายามหลบหนีออกจากรถขณะถูกจับใส่กุญแจมือ โดยจากการตรวจสอบสภาพศพนายเอกยุทธพบที่ขาทั้งสองข้างมีลักษณะฟกช้ำคล้ายกระโดดลงจากที่สูง เช่น สะพาน ตรงกับคำให้การของผู้ต้องหาที่ให้การว่านายเอกยุทธพยายามหลบหนีโดดลงจากสะพาน แต่ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรต้องรอนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปชี้จุดสถานที่ต่างๆ ตามคำให้การของผู้ต้องหาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร่องรอยบนตัวของผู้ตายมีอะไรบ้าง พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวว่า เบื้องต้นพบว่ามีรอยบีบรัดที่ลำคอ แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง รวมถึงหาสารพิษในร่างกายของผู้ตายว่ามีหรือไม่ รวมถึงการกินอาหาร มีข้อมูลว่ามีการนำอาหารมาให้ผู้ตายกินระหว่างกักตัว ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเป็นอาหารประเภทใดจะได้ตรวจสอบต่อไป ส่วนรายงานการเสียชีวิตนับจากวันที่พบศพพบว่าเสียชีวิตมาแล้ว 5 วัน
“ส้นเท้าด้านซ้ายของผู้ตายมีรอยฟกช้ำ คาดว่านายเอกยุทธคงจะกระโดดออกมาจากรถบริเวณสะพานกลับรถแห่งหนึ่ง เพราะเท่าที่ทราบมา รถรุ่นนี้หากชะลอหรือจอดนิ่งอยู่จะสามารถเปิดประตูรถได้จากภายใน นายเอกยุทธน่าจะรู้ดีเพราะเป็นเจ้าของรถ จึงตัดสินใจเปิดประตูแลวกระโดดลงจากสะพานกลับรถ แต่คงได้รับบาดเจ็บเดินหรือวิ่งหนีไม่ได้เพราะมีความสูงประมาณตึก 1-2 ชั้น ซึ่งจะต้องผ่าศพตรวจสอบกันก่อน” พล.ต.ท.จรัมพรกล่าว
พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวอีกว่า ทราบว่าหลังจากที่นายเอกยุทธกระโดดลงจากสะพานและได้รับบาดเจ็บที่ขาและส้นเท้า นายสันติภาพกับผู้ต้องหาอีกคนได้จอดรถและค่อยๆ ห้อยตัวตามลงมานำตัวนายเอกยุทธกลับขึ้นรถอีกครั้ง หลังจากนี้อาจจะมีการทำร้ายกันจนถึงแก่ชีวิต แต่ยังไม่ยืนยัน ซึ่งยังต้องดูว่าการทำแผนจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะได้หลักฐานมาเชื่อมโยงกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในรถตู้พบร่องรอยการต่อสู้หรือไม่ พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวว่า ตอนที่ตำรวจได้รถมา รถตู้คันนี้ผ่านการเช็ดถูทำความสะอาดมาแล้ว แต่ก็ยังมีหลักฐานอื่นๆ ที่เก็บได้อยู่ ทั้งขวดน้ำ หรือร่องรอยอื่นๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังบอกไม่ได้ว่าภายในรถตู้คันนี้มีร่อยรอยของบุคคลอื่นๆ อยู่กี่คน
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาออกจาก สน.วังทองหลาง มาชี้จุดสถานที่ต่างๆ ที่ก่อคดี โดยขณะนี้อยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วจะเคลื่อนไปยังสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประมาณ 14 จุดต่อไป ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป