**ปริศนาการเสียชีวิตของ เอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง และเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ถูกแถลงคลี่คลายปมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำทับด้วยความเห็นจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
แทบจะฟันธงไปแล้วว่าเป็นการอุ้มฆ่าโดยทีมงาน "สันติภาพ เพ็งด้วง" ก่อเหตุร่วมขบวนการกันเพียง 3-4 คน
**แต่ทว่าคนที่ไม่ได้กินหญ้ายังมองว่า มันมีอะไรที่สลับซับซ้อนกว่านั้น
การออกมาแถลงข่าวของทั้ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. หรือแม้แต่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ดูหลุกหลิก เร่งร้อน ส่อพิรุธ ลุกลี้ลุกลนเหมือนทำให้จบๆไป ไม่เปิดโอกาสให้มีการสอบถามอย่างเต็มที่ ผิดวิสัยสันดานตำรวจ จะต้องคุยโม้โอ้อวด จัดเต็มทุกรายละเอียด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีคำถามตามมาอื้ออึงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนรอบด้านแล้วหรือไม่ พยานแวดล้อม พร้อมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์ครบถ้วนแล้วหรือยัง
**เพราะร่องรอยบางอย่างยังเป็นปริศนาที่ถูกละเลยไป
ไม่ต้องอื่นไกล ทีมอุ้มฆ่าที่พยายามชี้ภาพให้เห็นว่า มีเพียงแค่ 2 คน บนรถตู้ จะมีฝีมือระดับพระกาฬขนาดนั้นเชียวหรือ การอ้างว่า "ไอ้เบิ้ม-สุทธิพงษ์" เป็นตัวการสำคัญในการก่อเหตุ เอาปืนจี้นายเอกยุทธ เพียงลำพังยังดูเป็นเงื่อนงำที่น่าสงสัย น่าจะมีใครคนอื่นอยู่อีกหรือไม่ เพราะการจะปลุกปล้ำใส่กุญแจมือเพียงลำพังคงเป็นไปได้ยาก
จิ๊กซอว์ตัวสำคัญหลังจากนี้ก็คือ "ไอ้เบิ้ม" ต้องจับตัวมาเค้นสอบให้หมดเปลือก คดีถึงจะคลี่คลายไปอีกชั้นหนึ่ง หวั่นใจว่าจะหลบหนีไปซ้ำร้อย "ไอ้ปื๊ด" สืบสาวอะไรไม่ได้เลย หรืออาจจะโดนเก็บตัดตอนไปเสียก่อน
แต่นั่นก็จะยิ่งทำให้เกิดเงื่อนงำหนักขึ้น สันนิษฐานว่า จะต้องมีขบวนการซ่อนอยู่อีกชั้นหนึ่งอย่างแน่นอน
พฤติการณ์อุ้มสังหารอย่างโหดเหี้ยมนี้ เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง คนธรรมดาทำไม่ได้แน่นอน ไม่มีร่องรอยหลักฐานทิ้งไว้มากนัก การฆ่ารัดคอ เป็นยุทธวิธีแบบมาเฟียอิตาลี ใช้เชือกรัดคอจนตายแบบเงียบเชียบ ผ่านการวิเคราะห์วางแผนมาอย่างดี ฝีมืออำมหิตเกินกว่าเด็กวัยรุ่น อายุ 20 กว่าๆ จะกระทำได้
การออกมายอมรับสารภาพของคนขับรถ "สันติภาพ" หลังปฏิเสธในชั้นต้น เหมือนต้องการชักจูงไปให้คล้อยตามเฉพาะในสิ่งที่เปิดเผยออกมา ซึ่งในความจริงแล้ว อาจมีอะไรอีกมากกว่านั้น
**มีหลักฐานมากกว่าที่บอก มีผู้ร่วมขบวนการมากกว่าที่สรุปกัน เหมือนจงใจเปิดหลักฐานบางส่วน แต่ยังปิดหลักฐานบางส่วน ไม่ให้สาวไปถึงผู้กระทำผิดตัวจริง และผู้บงการ !!
ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานนิติเวช นิติวิทยาศาสตร์ ต้องสืบจากศพให้ละเอียด ทุกซอกมุม เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซ่อนเร้นอำพรางไว้อยู่ เช่น เรื่องของการใส่กุญแจมือ ต้องมีร่องรอยต่อสู้ ถลอกปอกเปิด มีการต่อสู้อะไรกันหรือไม่ ต้องหาหลักฐานแบบนี้มาตอบสังคม หรือขยับการสืบสวนสอบสวนไปอีกทางหนึ่ง
แต่ไม่ทันไรก็เห็นอาการแหม่งๆ อีกแล้ว เมื่อชันสูตรออกมาบอกว่า ตายเพราะขาดอากาศหายใจ แต่ยืนยันไม่ได้ว่าเสียชีวิตมาแล้วกี่วัน เหมือนเลี่ยงๆไป ไม่อยากผูกมัดตัวเอง ยิ่งทำ ยิ่งซ่อนเร้นปกปิด !!
**วันนี้สังคมไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นไปตามถ้อยแถลงทั้งหมด ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหลายส่วน ดูเหมือนว่าทีมสังหารจะไม่มีเพียงแค่นี้ และเป้าประสงค์ไม่ใช่ทรัพย์สิน
ประเด็นเรื่องของการฆ่าเอาเงิน อาจให้ "สันติภาพ" เอ่ยอ้างขึ้นมาเป็นเหตุผลเพื่ออำพรางคดีเท่านั้น !!
และการบีบให้เอกยุทธ เซ็นเช็คก็เหมือนวางแผนมาอย่างดี คล้ายมีกุนซือ ไม่ให้เซ็นทีเดียว 5 ล้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แต่ให้เซ็น 3 ฉบับๆ ละ ล้านกว่า ไม่ถึงสองล้าน ไม่ให้กระโตกกระตาก ให้งานเดินไปราบรื่น นอกจากนั้น ยังมีข้อสงสัยอีกหลายจุด โดยเฉพาะช่วงที่อยู่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่เอาเช็คไปให้ "เอกยุทธ" เซ็น ตอนนั้นต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่ การควบคุมตัวมายังจุดที่คนพลุกพล่าน ต้องมีการวางแผนไว้อย่างลึกซึ้ง
น่าแปลกใจว่า ไม่มีใครพบเห็นความผิดปกติเลยหรืออย่างไร "เอกยุทธ" ไม่คิดหาช่องทางหลบหนีในตอนนั้นเลยหรือ แต่ทำได้แค่เพียงส่งสัญญาณผ่านเช็คโดยแกล้งเขียนปีพ.ศ.ผิด และส่งโค้ดลับทางโทรศัพท์ที่ปลายสายไม่เข้าใจ ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น
นั่นย่อมหมายความว่า มีแผนป้องกันการหลบหนี ตุกติกของ "เอกยุทธ" ไว้หมดแล้ว พฤติการณ์ล้วนมืออาชีพ และสันนิษฐานได้ทันทีว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีเพียงแค่ที่ออกมาชี้แจงแถลงไขกันอย่างแน่นอน อาจมีทีมล่าสังหารอีกชั้นหนึ่ง !!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากประมวลแล้วผิดแปลกเกินปกติ ตำรวจเองก็เร่งรัดแถลงปิดคดี ยกยอกันเองว่า เจ๋งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ ปิดคดีจับตัวคนร้ายได้รวดเร็ว โดยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งนักการเมืองในรัฐบาล ออกมาฟันธงตรงกัน เรื่องจบแล้ว มุ่งหมายต่อทรัพย์ ไม่มีเรื่องการเมืองหรือเรื่องอื่นใดเกี่ยวข้อง
หลายฝ่ายสันนิษฐานว่า การฆ่าแบบโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ ไม่น่าจะเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ หรือความแค้นเล็กๆ น้อยๆ ของคนขับรถ น่าจะมีเงื่อนปมเรื่องอื่นมากกว่า พร้อมให้น้ำหนักไปที่เรื่องการเมือง เพราะทีมล่าสังหารอีกทีมหนึ่งที่เชื่อว่าถูกปิดบังอำพรางหลักฐานอยู่ คือ
**มืออาชีพจากซุ้มมาเฟีย รับงานนี้มาโดยเฉพาะ และอาจมีเครือข่ายภาครัฐรู้เห็น !!
ที่น่าสนใจคือ มีความจงใจหรือเจตนา "เชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่" ถ้าเกิดเหตุการณ์อุ้มหายไปเลยเหมือน สมชาย นีละไพจิตร คนก็เชื่อว่าตายไปแล้ว ก็เท่านั้น แต่กรณีนี้เหมือนมีความต้องการให้ค้นพบศพ เพื่อสื่อสารบางอย่างหรือไม่ สภาพศพที่อเนจอนาถ เปลือยเปล่าขึ้นอืด เหมือนต้องการให้เกิดภาพสะเทือนขวัญ
** หรือจะชี้ให้เห็นว่า แม้แต่คนที่มีชื่อเสียงอย่าง "เอกยุทธ" ก็อาจมีจุดจบที่น่าสังเวชแบบนี้ ใครจะใหญ่มาจากไหน ก็มีสิทธิถูกอุ้มหาย ตายอนาถแบบนี้ก็ได้
บ้านเมืองกลับเข้าสู่ยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนแล้วหรือนี่กระไร คนก็คิดอนุมานได้ทันทีว่า ทีมงานสังหาร วงการมาเฟีย ที่จะลงมือกับคนใหญ่คนโต ด้วยวิธีการอุกอาจ เย้ยฟ้าท้ากฎหมายแบบนี้ มีไม่กี่ราย
**และกล้าลงมือกันถึงขนาดนี้คงได้รับสัญญาณไฟเขียวจากเครือข่ายผู้ถืออำนาจรัฐแล้วหรือไม่ ?
พฤติกรรมของผู้มีอำนาจวันนี้ เลยดูแปลกๆ อยากปิดคดีให้มันจบๆไป ชี้ว่าเป็นความผิดของคนขับรถและพวก ซึ่งอาจจะอุปโลกน์ ขึ้นมาเป็นทีมล่าสังหาร รับโทษทัณฑ์ไปชั่วครู่ ชั่วคราว และก็อุ้มชู ช่วยเหลือกันภายหลัง ในขณะที่ทีมงานตัวจริงหายตัวไร้ร่องรอย
**ปิดจ๊อบได้สำเร็จเด็ดขาด ฝ่ายผู้บงการก็ทำงานสำเร็จกำจัดศัตรูตัวฉกาจ พร้อมเชือดไก่ให้ลิงดู !!
แทบจะฟันธงไปแล้วว่าเป็นการอุ้มฆ่าโดยทีมงาน "สันติภาพ เพ็งด้วง" ก่อเหตุร่วมขบวนการกันเพียง 3-4 คน
**แต่ทว่าคนที่ไม่ได้กินหญ้ายังมองว่า มันมีอะไรที่สลับซับซ้อนกว่านั้น
การออกมาแถลงข่าวของทั้ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. หรือแม้แต่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ดูหลุกหลิก เร่งร้อน ส่อพิรุธ ลุกลี้ลุกลนเหมือนทำให้จบๆไป ไม่เปิดโอกาสให้มีการสอบถามอย่างเต็มที่ ผิดวิสัยสันดานตำรวจ จะต้องคุยโม้โอ้อวด จัดเต็มทุกรายละเอียด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีคำถามตามมาอื้ออึงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนรอบด้านแล้วหรือไม่ พยานแวดล้อม พร้อมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์ครบถ้วนแล้วหรือยัง
**เพราะร่องรอยบางอย่างยังเป็นปริศนาที่ถูกละเลยไป
ไม่ต้องอื่นไกล ทีมอุ้มฆ่าที่พยายามชี้ภาพให้เห็นว่า มีเพียงแค่ 2 คน บนรถตู้ จะมีฝีมือระดับพระกาฬขนาดนั้นเชียวหรือ การอ้างว่า "ไอ้เบิ้ม-สุทธิพงษ์" เป็นตัวการสำคัญในการก่อเหตุ เอาปืนจี้นายเอกยุทธ เพียงลำพังยังดูเป็นเงื่อนงำที่น่าสงสัย น่าจะมีใครคนอื่นอยู่อีกหรือไม่ เพราะการจะปลุกปล้ำใส่กุญแจมือเพียงลำพังคงเป็นไปได้ยาก
จิ๊กซอว์ตัวสำคัญหลังจากนี้ก็คือ "ไอ้เบิ้ม" ต้องจับตัวมาเค้นสอบให้หมดเปลือก คดีถึงจะคลี่คลายไปอีกชั้นหนึ่ง หวั่นใจว่าจะหลบหนีไปซ้ำร้อย "ไอ้ปื๊ด" สืบสาวอะไรไม่ได้เลย หรืออาจจะโดนเก็บตัดตอนไปเสียก่อน
แต่นั่นก็จะยิ่งทำให้เกิดเงื่อนงำหนักขึ้น สันนิษฐานว่า จะต้องมีขบวนการซ่อนอยู่อีกชั้นหนึ่งอย่างแน่นอน
พฤติการณ์อุ้มสังหารอย่างโหดเหี้ยมนี้ เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง คนธรรมดาทำไม่ได้แน่นอน ไม่มีร่องรอยหลักฐานทิ้งไว้มากนัก การฆ่ารัดคอ เป็นยุทธวิธีแบบมาเฟียอิตาลี ใช้เชือกรัดคอจนตายแบบเงียบเชียบ ผ่านการวิเคราะห์วางแผนมาอย่างดี ฝีมืออำมหิตเกินกว่าเด็กวัยรุ่น อายุ 20 กว่าๆ จะกระทำได้
การออกมายอมรับสารภาพของคนขับรถ "สันติภาพ" หลังปฏิเสธในชั้นต้น เหมือนต้องการชักจูงไปให้คล้อยตามเฉพาะในสิ่งที่เปิดเผยออกมา ซึ่งในความจริงแล้ว อาจมีอะไรอีกมากกว่านั้น
**มีหลักฐานมากกว่าที่บอก มีผู้ร่วมขบวนการมากกว่าที่สรุปกัน เหมือนจงใจเปิดหลักฐานบางส่วน แต่ยังปิดหลักฐานบางส่วน ไม่ให้สาวไปถึงผู้กระทำผิดตัวจริง และผู้บงการ !!
ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานนิติเวช นิติวิทยาศาสตร์ ต้องสืบจากศพให้ละเอียด ทุกซอกมุม เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซ่อนเร้นอำพรางไว้อยู่ เช่น เรื่องของการใส่กุญแจมือ ต้องมีร่องรอยต่อสู้ ถลอกปอกเปิด มีการต่อสู้อะไรกันหรือไม่ ต้องหาหลักฐานแบบนี้มาตอบสังคม หรือขยับการสืบสวนสอบสวนไปอีกทางหนึ่ง
แต่ไม่ทันไรก็เห็นอาการแหม่งๆ อีกแล้ว เมื่อชันสูตรออกมาบอกว่า ตายเพราะขาดอากาศหายใจ แต่ยืนยันไม่ได้ว่าเสียชีวิตมาแล้วกี่วัน เหมือนเลี่ยงๆไป ไม่อยากผูกมัดตัวเอง ยิ่งทำ ยิ่งซ่อนเร้นปกปิด !!
**วันนี้สังคมไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นไปตามถ้อยแถลงทั้งหมด ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหลายส่วน ดูเหมือนว่าทีมสังหารจะไม่มีเพียงแค่นี้ และเป้าประสงค์ไม่ใช่ทรัพย์สิน
ประเด็นเรื่องของการฆ่าเอาเงิน อาจให้ "สันติภาพ" เอ่ยอ้างขึ้นมาเป็นเหตุผลเพื่ออำพรางคดีเท่านั้น !!
และการบีบให้เอกยุทธ เซ็นเช็คก็เหมือนวางแผนมาอย่างดี คล้ายมีกุนซือ ไม่ให้เซ็นทีเดียว 5 ล้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แต่ให้เซ็น 3 ฉบับๆ ละ ล้านกว่า ไม่ถึงสองล้าน ไม่ให้กระโตกกระตาก ให้งานเดินไปราบรื่น นอกจากนั้น ยังมีข้อสงสัยอีกหลายจุด โดยเฉพาะช่วงที่อยู่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่เอาเช็คไปให้ "เอกยุทธ" เซ็น ตอนนั้นต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่ การควบคุมตัวมายังจุดที่คนพลุกพล่าน ต้องมีการวางแผนไว้อย่างลึกซึ้ง
น่าแปลกใจว่า ไม่มีใครพบเห็นความผิดปกติเลยหรืออย่างไร "เอกยุทธ" ไม่คิดหาช่องทางหลบหนีในตอนนั้นเลยหรือ แต่ทำได้แค่เพียงส่งสัญญาณผ่านเช็คโดยแกล้งเขียนปีพ.ศ.ผิด และส่งโค้ดลับทางโทรศัพท์ที่ปลายสายไม่เข้าใจ ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น
นั่นย่อมหมายความว่า มีแผนป้องกันการหลบหนี ตุกติกของ "เอกยุทธ" ไว้หมดแล้ว พฤติการณ์ล้วนมืออาชีพ และสันนิษฐานได้ทันทีว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีเพียงแค่ที่ออกมาชี้แจงแถลงไขกันอย่างแน่นอน อาจมีทีมล่าสังหารอีกชั้นหนึ่ง !!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากประมวลแล้วผิดแปลกเกินปกติ ตำรวจเองก็เร่งรัดแถลงปิดคดี ยกยอกันเองว่า เจ๋งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ ปิดคดีจับตัวคนร้ายได้รวดเร็ว โดยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งนักการเมืองในรัฐบาล ออกมาฟันธงตรงกัน เรื่องจบแล้ว มุ่งหมายต่อทรัพย์ ไม่มีเรื่องการเมืองหรือเรื่องอื่นใดเกี่ยวข้อง
หลายฝ่ายสันนิษฐานว่า การฆ่าแบบโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ ไม่น่าจะเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ หรือความแค้นเล็กๆ น้อยๆ ของคนขับรถ น่าจะมีเงื่อนปมเรื่องอื่นมากกว่า พร้อมให้น้ำหนักไปที่เรื่องการเมือง เพราะทีมล่าสังหารอีกทีมหนึ่งที่เชื่อว่าถูกปิดบังอำพรางหลักฐานอยู่ คือ
**มืออาชีพจากซุ้มมาเฟีย รับงานนี้มาโดยเฉพาะ และอาจมีเครือข่ายภาครัฐรู้เห็น !!
ที่น่าสนใจคือ มีความจงใจหรือเจตนา "เชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่" ถ้าเกิดเหตุการณ์อุ้มหายไปเลยเหมือน สมชาย นีละไพจิตร คนก็เชื่อว่าตายไปแล้ว ก็เท่านั้น แต่กรณีนี้เหมือนมีความต้องการให้ค้นพบศพ เพื่อสื่อสารบางอย่างหรือไม่ สภาพศพที่อเนจอนาถ เปลือยเปล่าขึ้นอืด เหมือนต้องการให้เกิดภาพสะเทือนขวัญ
** หรือจะชี้ให้เห็นว่า แม้แต่คนที่มีชื่อเสียงอย่าง "เอกยุทธ" ก็อาจมีจุดจบที่น่าสังเวชแบบนี้ ใครจะใหญ่มาจากไหน ก็มีสิทธิถูกอุ้มหาย ตายอนาถแบบนี้ก็ได้
บ้านเมืองกลับเข้าสู่ยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนแล้วหรือนี่กระไร คนก็คิดอนุมานได้ทันทีว่า ทีมงานสังหาร วงการมาเฟีย ที่จะลงมือกับคนใหญ่คนโต ด้วยวิธีการอุกอาจ เย้ยฟ้าท้ากฎหมายแบบนี้ มีไม่กี่ราย
**และกล้าลงมือกันถึงขนาดนี้คงได้รับสัญญาณไฟเขียวจากเครือข่ายผู้ถืออำนาจรัฐแล้วหรือไม่ ?
พฤติกรรมของผู้มีอำนาจวันนี้ เลยดูแปลกๆ อยากปิดคดีให้มันจบๆไป ชี้ว่าเป็นความผิดของคนขับรถและพวก ซึ่งอาจจะอุปโลกน์ ขึ้นมาเป็นทีมล่าสังหาร รับโทษทัณฑ์ไปชั่วครู่ ชั่วคราว และก็อุ้มชู ช่วยเหลือกันภายหลัง ในขณะที่ทีมงานตัวจริงหายตัวไร้ร่องรอย
**ปิดจ๊อบได้สำเร็จเด็ดขาด ฝ่ายผู้บงการก็ทำงานสำเร็จกำจัดศัตรูตัวฉกาจ พร้อมเชือดไก่ให้ลิงดู !!