xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอรับคดีรถหรูเป็นคดีพิเศษ พร้อมประสานขนส่ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงรับคดีรถยนต์หรูที่ถูกไฟไหม้เข้าเป็นคดีพิเศษ
“ธาริต” เชื่อนักการเมืองเอี่ยวรถหรู ส่ง ผบ.สำนักปฏิบัติการพิเศษภาค ประสาน สตช.โอนคดีไฟไหม้รถหรู 6 คันมาเป็นคดีพิเศษ พร้อมประสานกรมขนส่ง รื้อตรวจสอบรถหรูจดประกอบเกือบ 6 พันคัน ปี 54-55 นำเข้าทั้งคันแต่จดแจ้งแยกชิ้นส่วนบังหน้าเลี่ยงภาษีกว่า 200% เตรียมเรียกเจ้าของรถแจง


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 3 มิ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการพิเศษภาค ดีเอสไอ นายมเหศักดิ์ พันสง่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีภาษีอากร ดีเอสไอ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคดีภาษี ดีเอสไอ แถลงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนขบวนการลักลอบนำเข้ารถยนต์จดประกอบหลีกเลี่ยงภาษี หลังดีเอสไอลงพื้นที่ สภ.กลางดง จังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบซากรถหรู 6 คัน ที่เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ใน ต.กลางดง อ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างขนส่งไปจะทะเบียนจังหวัดศรีสะเกษ โดยดีเอสไอจะประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โอนคดีเป็นคดีพิเศษ

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า วันนี้ตนได้อนุมัติกรณีเหตุรถยนต์หรู 6 คัน ไฟไหม้ เป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอจะตามให้ถึงที่สุดว่ารถยนต์หรูทั้ง 6 คันมาจากไหน เป็นใคร ถือว่าเป็นงานท้าทายของดีเอสไอที่ต้องทำให้สำเร็จ สำหรับผลการตรวจสอบรถยนต์หรูยี่ห้อลัมบอร์กินี คันที่ถูกไฟไหม้ เป็น 1 ใน 3 คันที่อยู่บัญชีรถจดประกอบหลีกเลี่ยงภาษีของดีเอสไอ โดยผลการตรวจรถ ลัมบอร์กินีรถคันเกิดเหตุพบว่ามีบริษัท ธรรมะมอเตอร์ลิสต์ จำกัด แจ้งเป็นผู้ดำเนินการจดประกอบ มีผู้ประกอบการคือนางพรพิมล เคหะฐาน ส่วนผู้ซื้อตัวถังและเครื่องยนต์เป็นชิ้นๆ คือนางสุกัลยา สมบัติดี มีบริษัท พีเอเอ็นเอ็กเพรส จำกัด เป็นผู้นำเข้า ดีเอสไอมีข้อมูลของเจ้าหน้าที่ศุลกากรเป็นใคร ด่านไหน เจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่ตรวจคือใคร สำหรับรายชื่อผู้เกี่ยวข้องเฉพาะกรณีการนำเข้ารถลัมโบกินี่คันเกิดเหตุถึง 18 รายชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนเหตุผลว่าทำไมมีการขนส่งรถหรูไปจดทะเบียนที่ศรีสะเกษ อยู่ระหว่างตรวจสอบ

อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า เมื่อพบว่ารถลัมบอร์กินี 1 ใน 6 คันที่เกิดเหตุไฟไหม้ตรงกับบัญชีรถจดประกอบหนีภาษีของดีเอสไอ จึงเชื่อว่ารถยนต์ที่เหลืออาจมีความเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกัน ดังนั้น วันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.) ได้มอบให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการพิเศษภาค ดีเอสไอ ประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อโอนคดีมาอยู่ที่ดีเอสไอ เพราะที่ผ่านมาดีเอสไอ เข้าสอบสวนขบวนการนำเข้ารถจดประกอบ โดยเลี่ยงภาษีมาก่อนหน้าแล้ว ในปี 2554-2555 พบว่ามีการนำเข้ารถจดประกอบและจดทะเบียนไป 5,832 คัน ดีเอสไอมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่รายชื่อผู้นำเข้าโดยบริษัทอะไร ชื่อลูกค้าที่ซื้อรถไปครอบครองเป็นเจ้าของมีทั้งนักการเมือง พ่อค้า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีเงิน คนพวกนี้ไม่ได้ดำเนินการตามลำพัง ต้องผ่านบริษัทที่มีระบบติดต่อ มีการทำชิปปิ้งเอาของออก มีเป็นขบวนการ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วทำได้

“กรณีนี้ที่ระบุว่าอธิบดีดีเอสไอกล่าวว่าพบรถหรู 6 คันเกี่ยวข้องกับลูกอดีตรัฐมนตรีนั้น ผมขอปฏิเสธว่าการสอบสวนไม่ได้ระบุแน่ชัดเช่นนั้น แต่ทางการข่าวของดีเอสไอมีเช่นนั้นจริง สำหรับเรื่องนี้ยืนยันว่าจะสอบสวนไปให้ถึงที่สุดและเชื่อว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง” นายธาริตกล่าว

นายมเหศักดิ์ พันสง่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีภาษีอากร ดีเอสไอ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี กล่าวว่า จากข้อสันนิษฐานของดีเอสไอหลังสืบสวนสอบสวนการนำเข้ารถจดประกอบ ดีเอสไอเชื่อว่ารถหรูอาจจะมีการนำเข้ามาทั้งคัน แต่แจ้งเท็จว่านำเข้าอะไหล่เพื่อนำมาจะประกอบเสียภาษีต่ำกว่านำเข้าทั้งคันกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ เพราะรถหรูไม่สามารถประกอบได้ในประเทศไทย เนื่องจากไม่มีเทคโนโลยีที่จะประกอบรถหรู การถอดชิ้นส่วน การถอดเครื่องเป็นไปไม่ได้เลย เพราะโรงงานรถหรูยี่ห้อเฟอร์รารี รถปอร์เช่ จะเข้มงวดมากในการควบคุมความปลอดภัย โดยเฉพาะกำลังเครื่องยนต์กว่า 400 แรงม้า ถ้ามาขันนอตประกอบในประเทศไทย เครื่องคงไม่สามารถจะทำงานได้

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีภาษีอากร ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอได้ประสานกับกรมสรรพสามิต และกรมการขนส่งทางบก ในการตรวจสอบรายละเอียดรถจดประกอบ โดยได้ถ่ายเอกสารเล่มจะทะเบียนรถยนต์จดประกอบทั้ง 5,832 คันไว้แล้วทั้งหมด เพื่อเรียกผู้ครอบครองรถหรูจดประกอบมาชี้แจง หรืออาจกันตัวเป็นพยานหากชี้เบาะแสถึงตัวผู้ขาย ทั้งนี้ หากมีการแจ้งเท็จรถจดประกอบจะมีความผิดตาม มาตรา 27 ของ พ.ร.บ.ศุลกากร ส่วนผู้ที่มีครอบครอง หรือรับซื้อ จะมีความผิดตาม มาตรา 27 ทวิ โทษอาญาที่มีอัตราจำคุก 10 ปี และปรับ 4 เท่าของภาษี แต่ผู้ครอบครองหรือรับซื้อสามารถขอระงับคดีได้หากยกของกลางให้แผ่นดิน
กำลังโหลดความคิดเห็น