มือปืนโหดควบ จยย.ไล่ยิง นศ.หนุ่มดับคาเกาะกลางถนน ย่านชุมสายโทรศัพท์บางแค แฟนสาวชี้คนร้ายหวังชิงสร้อยคอทองคำ ตร.ระบุมือปืนไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตายเพียงอย่างเดียว คงวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี
วันนี้ (11 พ.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. พ.ต.ท.ประสงค์ ชำนาญศิลป์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุมีชายถูกยิงเสียชีวิตบริเวณเกาะกลางถนนใต้แนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ด้านหน้าชุมสายโทรศัพท์บางแค ถ.เพชรเกษมขาเข้า แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดา ดามาพงศ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ พ.ต.ท.ศิริชาติ จันทร์พรมมา สว.สส.สน.ภาษีเจริญ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเกาะกลางลานวางวัสดุก่อสร้างใต้ตอม่อรถไฟฟ้าสถานีบางหว้า เจ้าหน้าที่พบศพนายกฤษฎา แสนใจงาม อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม อยู่บ้านเลขที่ 164 ถนนเพชรเกษมซอย 1 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.เข้าที่สะบ้าหลังด้านขวาทะลุออกหน้าอกข้างซ้าย 1 นัด ห่างไปประมาณ 5 เมตร พบจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว-ดำ เลขทะเบียน รษข 418 กทม. ของผู้ตายพลิกคว่ำในสภาพพังยับเยิน จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.กชพรรณ เย็นวนิช อายุ 32 ปี อาชีพพนักงานบาร์ญี่ปุ่นย่านสีลม แฟนสาวของผู้ตาย ให้การขณะน้ำตานองหน้าว่า ได้คบหากับนายกฤษฎามาได้ประมาณ 3-4 เดือน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับจักรยานยนต์ไปหาตนที่คอนโดมิเนียมย่านตลาดบางแค จากนั้นจึงชักชวนกันไปกินข้าวต้มที่ถนนสุขาภิบาล 1 หลังตลาดบางแค โดยผู้ตายขอขับจักรยานยนต์นำหน้ารถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น 323 ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน วต 2973 กทม.ของตนไป เนื่องจากหลังกินข้าวเสร็จต่างก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านพัก
น.ส.กชพรรณให้การต่อว่า กระทั่งไปถึงบริเวณหน้าร้านข้าวต้มเมื่อตนจอดรถเสร็จก็เกิดอาการคลื่นไส้เพราะวันนี้ดื่มสุราจากที่ทำงานมาเล็กน้อยจึงก้มลงอาเจียนริมถนนข้างรถ โดยมีผู้ตายทำหน้าที่คอยลูบหลังให้ ระหว่างนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด ทำให้ผู้ตายตกใจวิ่งหนีเข้าไปหลบในร้านข้าวต้ม รอจนกระทั่งมีตำรวจสายตรวจของ สน.เพชรเกษม เดินทางมาถึง ก็ได้ยินผู้ตายเล่าให้ตำรวจฟังว่า ขณะกำลังลูบหลังให้ตนอยู่นั้นมีคนร้าย 2 คนพยายามเข้ามาชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทที่ผู้ตายสวมใส่อยู่ แต่เกิดการขัดขืนทำให้คนร้ายชักอาวุธปืนออกมายิงจนต้องวิ่งหนีตายเข้าไปหลบในร้านข้าวต้ม
“พอสายตรวจ สน.เพชรเกษมเดินทางกลับไปจึงบอกให้ผู้ตายเดินทางไปแจ้งความที่โรงพัก แต่ผู้ตายบอกว่ายังอยู่ในอาการตกใจไม่หาย และกลัวว่าแม่ซึ่งรออยู่ที่บ้านจะบ่น จึงขอขับรถ จยย.ล่วงหน้ากลับบ้านก่อน โดยดิฉันขับรถเก๋งถึงคอนโดมิเนียมแล้วก็ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาผู้ตายเพื่อสอบถามว่าถึงบ้านหรือยัง แต่กลับไม่มีใครรับสายด้วยความเป็นห่วง จึงตัดสินใจขับรถตามมาดูถึงรู้ว่าถูกยิงจนเสียชีวิตไปแล้ว” น.ส.กชพรรณกล่าว
นายต้น (นามสมมติ) อายุ 52 ปี อาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างปากซอยเพชรเกษม 23 ซึ่งเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังขับจักรยานยนต์จากแยกเพชรราชพฤกษ์มุ่งหน้าไปทางชุมสายโทรศัพท์บางแค สังเกตเห็นผู้ตายเร่งเครื่องจักรยานยนต์หลบหนีการไล่ล่าของคนร้าย เป็นชายวัยรุ่นรูปร่างผอมสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีฟ้า-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พาคนร้ายชายอีกคนรูปร่างท้วมสวมเสื้อลายสกอตแขนยาวสีฟ้าเป็นคนซ้อนท้ายมาด้วย จากนั้นรถทั้ง 2 คันก็แซงรถตนไป ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดกันจำนวน 4-5 นัด พอตนขับตามมาถึงก็เห็นผู้ตายถูกยิงจนล้มคว่ำอยู่กลางถนนแล้ว
พ.ต.อ.ศักดากล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมตำรวจพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่เกลื่อนถนนรวม 4 ปลอก จึงเชื่อว่ามือปืนน่าจะไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตายเพียงอย่างเดียวและคงวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี ภายหลังจากนี้จะเชิญตัวแฟนสาวพร้อมญาติของผู้ตายไปสอบปากคำที่โรงพักอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหามูลเหตุของการตายที่แท้จริง ส่วนแนวทางการติดตามจับกุมตัวคนร้ายตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดบนถนนเพชรเกษมตั้งแต่ตลาดบางแค จนถึงจุดเกิดเหตุซึ่งมีระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตรแล้ว เชื่อว่าจะมีกล้องสามารถบันทึกภาพการไล่ล่าได้อย่างแน่นอน