ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงจ่อแจ้งข้อหาผู้ประกอบการนำก๊าซหุงต้มขายปั๊มรถยนต์เพิ่มอีก 30 ราย
วันนี้ (3 พ.ค.) พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.พร้อมคณะพนักงานสอบสวนการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ออกหมายเรียกผู้ประกอบการโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม แอลพีจี (LPG) จำนวน 40 แห่ง และผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 70 ราย เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.ก.กำหนดแก้ไขและป้องกันภาวการณ์ขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อวานที่ผ่านมาว่า ภายหลังจากที่ได้เรียกผู้ประกอบการธุรกิจก๊าซแอลพีจี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาและปล่อยตัวชั่วคราวกลับไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการออกหมายจับ อีกทั้งกลุ่มผู้ต้องหาก็เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง จึงไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ว่าผู้ประกอบการธุรกิจก๊าซดังกล่าวมีการรับก๊าซมาจากแหล่งไหน ใครเป็นผู้นำก๊าซมาส่ง ซึ่งเป้าหมายใหญ่ของเจ้าหน้าที่ คือจะต้องสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวการใหญ่ให้ได้
“ทั้งนี้ถ้าหากสามารถติดตามจับกุมได้ก็จะทำให้รัฐบาลลดการสูญเสียงบประมาณในส่วนนี้ได้ถึงหลายหมื่นล้านบาท นอกจากนี้ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เจ้าหน้าที่ก็จะเชิญกลุ่มผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากระทำผิดในเรื่องดังกล่าวจริง มาทำการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกจำนวนประมาณ 30 รายต่อไป” รอง ผบก.ป.กล่าว