xs
xsm
sm
md
lg

ปคบ.รวบไต้หวันลักลอบฉีด “สเต็มเซลล์มนุษย์-พืช” อ้างรักษามะเร็ง!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. แถลงข่าวจับกุมชาวไต้หวันลักลอบขายและฉีดสเต็มเซลล์มนุษย์และสเต็มเซลล์พืช อ้างรักษาสารพัดโรคทั้งโรคมะเร็ง โรคเลือด โรคกระดูก และทำให้ดูอ่อนเยาว์
ปคบ.รวบแก๊งไต้หวันลักลอบฉีดสเต็มเซลล์มนุษย์-พืช อ้างรักษาโรคมะเร็งและทำให้ดูอ่อนกว่าวัย สารภาพคิดค่าฉีดคอร์สละ 2 ล้านกว่าบาท ทำมาแล้ว 2 ปี ตร.เผยมีผู้หลงเชื่อหลายราย ฝากเตือนว่าวิธีรักษาดังกล่าวอาจเป็นอันตรายเนื่องจากยังไม่ได้รับการยืนยันจากแพทย์

วันนี้ (25 เม.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อเวลา 18.30 น. พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ไพฑูรย์ คุ้มสระพรหม รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ล้ำพรรณ ธนประเทศ ผกก.4 บก.ปคบ. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขายและฉีดสเต็มเซลล์ ประกอบด้วย นายชาง ชิงหลุง อายุ 50 ปี นายเชียง เชงหัว อายุ 56 ปี และนายหวง เหลียงมิน อายุ 45 ปี ทั้งหมดสัญชาติไต้หวัน พร้อมของกลางสเต็มเซลล์มนุษย์ และสเต็มเซลล์พืช เช็คเงินสด 1.9 ล้านบาท เข็มฉีดยา 30 ชุด มูลค่าประมาณ 2 ล้าน 9 หมื่นบาท จับกุมได้ที่โรงแรมเมอร์เคียว ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.4 บก.ปคบ.ได้รับแจ้งว่ามีผู้ลักลอบขายและฉีดสเต็มเซลล์ให้แก่ลูกค้าทั่วไปโดยอ้างสรรพคุณว่าสามารถรักษาได้สารพัดโรค โดยเฉพาะโรคมะเร็ง โรคเลือด โรคกระดูก นอกจากนี้ยังอ้างว่าเมื่อได้ฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปแล้วจะทำให้ดูอ่อนกว่าวัย จากชายสูงอายุก็จะดูเป็นหนุ่มตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับติดต่อขอรับบริการดังกล่าวจากผู้ต้องหา โดยนัดหมายกันที่โรงแรมดังกล่าว เมื่อมีการนำสเต็มเซลล์มาเพื่อเตรียมฉีด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

สอบสวนหนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งสามารถพูดภาษาไทยได้ให้การว่า ได้ลักลอบฉีดสเต็มเซลล์ให้ลูกค้าจริง โดยภายหลังได้รับการติดต่อจากลูกค้าแล้วก็จะแจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายในการฉีดสเต็มเซลล์ 2 ล้าน 9 หมื่นบาท โดยจะต้องฉีดหลายครั้งจนกว่าจะหมดหลอด หรือโดยเฉลี่ยคิดเป็นเงินครั้งละ 1 แสนบาท ทำมาได้ประมาณ 2 ปี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

ด้าน พ.ต.อ.ล้ำพรรณกล่าวว่า การลักลอบฉีดสเต็มเซลล์ครั้งนี้ มีการโฆษณาชวนเชื่ออ้างสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคได้สารพัด ทั้งยังทำให้ผู้ที่ได้รับสเต็มเซลล์ดูอ่อนกว่าวัย ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อเข้ารับบริการแล้วหลายราย จึงอยากฝากเตือนว่าสเต็มเซลล์ดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันจากแพทย์ว่ารักษาโรคได้จริง และอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย อย่างไรก็ดี ได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อตรวจสอบและขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่นำเข้าสเต็มเซลล์ดังกล่าวมาจากไต้หวัน ต่อไป ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ดำเนินคดี
กำลังโหลดความคิดเห็น