เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ จากนครแอตแลนตา ในมลรัฐจอร์เจีย ประสบความสำเร็จในการรักษาหนูน้อยซึ่งติดเชื้อเอดส์มาแต่กำเนิด ถือเป็นก้าวย่างสำคัญที่อาจปูทางไปสู่การรักษาผู้ติดเชื้อเอดส์ให้หายขาดได้อย่างถาวรในอนาคต
รายงานข่าวระบุว่า ทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์จากนครแอตแลนตาของสหรัฐฯ ยืนยันว่า พวกเขาได้ทำการรักษาเด็กน้อยวัย 2 ขวบครึ่งจากมลรัฐมิสซิสซิปปีรายหนึ่ง ซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อและเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีมาแต่กำเนิด โดยทีมแพทย์ได้ใช้ยาจำพวกแอนติเรโทรไวรัลในระดับที่เข้มข้นกว่าปกติ ฉีดเข้าหลอดเลือดของหนูน้อยรายนี้ภายในระยะเวลา 30 ชั่วโมงแรก นับตั้งแต่ที่เด็กน้อยลืมตาดูโลก
ข้อมูลจากทีมวิจัยที่มีการเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (3) ระหว่างการประชุมทางการแพทย์ในนครแอตแลนตาระบุว่า หนูน้อยรายดังกล่าวซึ่งยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันนั้น ไม่ได้เป็น “ผู้ติดเชื้อ” อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวีในร่างกายอีก และหนูน้อยก็ไม่ได้รับการรักษาโดยการใช้ยาต้านไวรัสใดๆ มานานเกินกว่า 1 ปีเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าหนูน้อยจากมลรัฐมิสซิสซิปปีนี้อาจกลายเป็นผู้ติดเชื้อเอดส์รายที่ 2 ของโลกที่ได้ชื่อว่าหายขาดจากเชื้อมรณะที่คร่าชีวิตประชากรโลกจำนวนมากในแต่ละปี
อย่างไรก็ดี ดร.แอนโธนี สตีเฟน ฟอซี แห่งสถาบันสุขภาพแห่งชาติและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันวิทยาระดับแถวหน้าของสหรัฐฯ ออกมาย้ำว่า ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นยังไม่ถือเป็น “การรักษา” ผู้ติดเชื้อเอดส์ให้หายขาดแต่อย่างใด เนื่องจากยังคงมีปัจจัยต่างๆ ทางการแพทย์ที่ต้องเดินหน้าศึกษาค้นคว้าต่อไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการส่งสัญญาณว่ามนุษย์กำลังขยับเข้าใกล้การพิชิตโรคเอดส์อย่างถาวรแล้ว จากเดิมที่เอดส์ถูกจัดให้เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาได้
ขณะเดียวกัน ทีมวิจัยยังต้องเผชิญกับข้อโต้แย้งสำคัญที่ว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหากนำวิธีการดังกล่าวไปใช้กับเด็กติดเชื้อที่มีอายุมากกว่านี้ หรือนำไปใช้กับผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันหรือไม่
ด้าน ดร.เดบอราห์ เพอร์โซด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเด็กแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำในการศึกษา ระบุว่า ความรวดเร็วในการให้ยาต้านไวรัสในระดับที่มีความเข้มข้นมากกว่าปกติภายหลังการคลอด มีส่วนสำคัญในการจัดการกับเชื้อเอชไอวีในเลือดของเด็กที่ติดเชื้อ ก่อนที่เชื้อมรณะจะทันได้แพร่กระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ในร่างกาย
ก่อนหน้านี้ มีมนุษย์เพียงรายเดียวของโลกที่เชื่อกันว่าหายขาดจากการติดเชื้อเอดส์ คือ ทิโมธี เรย์ บราวน์ จากนครซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเข้ารับการรักษาโดยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ในปี 2007 และปี 2008 และไม่ได้รับยาต้านไวรัสเป็นเวลานานกว่า 20 เดือน โดยรายงานระบุว่าทีมแพทย์ตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวีในตัวของบราวน์เลยตลอดระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์