xs
xsm
sm
md
lg

จับ 2 คนงานฉกวัตถุโบราณพิพิธภัณฑ์ชัยนาทฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.แถลงผลการจับกุมคนร้ายลักวัตถุโบราณจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี จ.ชัยนาท พร้อมของกลางเหรียญเงินกษาปณ์ และพระพิมพ์ปางต่างๆ จำนวนมาก

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)พร้อมด้วย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ภวัต พรหมมะกฤต ผบก.ภ.จว.ชัยนาท แถลงผลการจับกุม นายอมร กล่อมกำเนิด อายุ 27 ปี อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชัยนาทมุนี และ นายโสภณ วสุวัฒนเมธี อายุ 35 ปี คนงานในพิพิธภัณฑ์ พร้อมของกลางเหรียญเงินกษาปณ์ และพระพิมพ์ปางต่างๆ จำนวนมาก หลังร่วมกันขโมยวัตถุโบราณจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี จ.ชัยนาท

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ทีผ่านมา นางเสน่ห์ ประกอบทอง หัวหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติชัยนาทมุนี ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาทว่ามีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชัยนาทมุนี อ.เมือง จว.ชัยนาท ประกอบด้วย งาช้าง จำนวน 2 คู่ ถ้วยลายคราม กระปุกดินเผาเคลือบ พระพิมพ์เนื้อชิน พระพิมพ์ดินเผา (สมัยสุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์) รวม 50 รายการ โดยหลังเกิดเหตุได้มีการสืบสวนสอบสวนและได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายซึ่งยอมรับว่าได้โจรกรรมวัตถุโบราณทั้
หมดที่สูญหายไปจริง

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ขโมยวัตถุโบราณในห้องคลังของพิพิธภัณฑ์ มากว่า 60 ชิ้น โดยใช้น้ำหยดใส่ตัวบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิดให้เสีย แล้วเข้าไปขโมยของ โดยก่อเหตุมาตั้งแต่เดือนต.ค. 2555 และครั้งล่าสุด เมื่อเดือนม.ค.2556 จากนั้น ได้ลาออกเมื่อปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา สำหรับวัตถุโบราณที่ขโมยมา จะนำไปแบ่งขายที่ตลาดนัดจตุจักร โดยงาช้าง 1 คู่ขายได้ในราคา 4.2 แสนบาท และ ฝังดินไว้ที่ข้างบันไดบ้าน เมื่อได้เงินมาจากการขายของ ก็จะนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน ส่วนหนึ่งได้นำไปซื้อรถ และเที่ยวเตร่ ยอมรับว่ารู้สึกกลัวบาป เพราะทรัพย์สินที่พวกตนขโมยเป็นวัตถุโบราณ ซึ่งถือเป็นสมบัติของชาติ แต่มูลค่าของวะตถุโบราณเหล่านี้ล่อตาล่อใจให้ก่อเหตุ ทั้งนี้ ตำรวจได้ติดตามงาช้าง กลับคืนมาจากร้านรับซื้อของเก่าได้แล้ว 1 คู่ ส่วนอีกคู่

ด้าน พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า ขอให้ผู้ครอบครองวัตถุโบราณที่ถูกโจรกรรมไปทั้งหมด นำกลับส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะไม่ถูกดำเนินคดี และหลังจากนี้ จะมีการประสานกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบพฤติกรรมร้านรับซื้อของเก่า ว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยกับการกระทำผิดครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ซึ่งหากพบก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

ด้านนายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร ที่มาร่วมแถลงข่าว กล่าวว่า รายการวัตถุโบราณที่หายไปทั้งหมดมี 58 รายการ จำนวน 59 ชิ้น ขณะนี้ได้คืนมาเพียง 16 ชิ้น บางชิ้นที่ได้คืนมาในครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ ส่วนวัตถุโบราณที่เหลือจะเร่งประสานตำรวจเพื่อติดตามเอาคืนมาให้ได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าพิพิธภัณฑ์ทุกแห่งมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม มีความมั่นคงแข็งแรง มีกล้องวงจรปิดทุกจุด แต่หลายกรณีที่เกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากบุคคลากร แม้ที่ผ่านมาจะมีการฝึกอบรมมาโดยตลอด แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของบุคคล อย่างไรก็ตามกรณีนี้ต้องขอขอบคุณตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

กำลังโหลดความคิดเห็น