กระทรวงคลังเผย 5 เดือนแรกปีงบ 56 เก็บรายได้รวม 8.3 แสนล้าน เกินเป้า 9.5 หมื่นล้าน หรือคิดเป็น 13% สะท้อนเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 158,918 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,732 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.7 โดยมีสาเหตุสำคัญจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และสัมปทานปิโตรเลียมที่สูงกว่าเป้าหมาย เป็นผลจากโครงการรถยนต์ใหม่คันแรก และปริมาณปิโตรเลียมที่ขุดเจาะได้สูงกว่าที่คาดไว้
นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าเป้าหมายด้วย ในขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าที่ชะลอตัวลงหลังจากที่ได้มีการเร่งนำเข้าสินค้าในเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555-กุมภาพันธ์ 2556) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 830,235 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 95,419 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0 ซึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บรายได้ของทุกหน่วยงานที่สูงกว่าประมาณการ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ และรายได้ภาคครัวเรือน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.เดือนกุมภาพันธ์ 2556 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 158,918 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,732 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.7 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.3) โดยรายได้ที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญได้แก่ ภาษีรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,630 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.1 เป็นผลจากโครงการรถยนต์ใหม่คันแรก หน่วยงานอื่นจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 2,664 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.7 เป็นผลจากรายได้สัมปทานปิโตรเลียมจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,066 ล้านบาท ประกอบกับ รายการเงินคืนเงินบำรุงองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (TPBS) จำนวน 616 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 2,941 ล้านบาท หรือร้อยละ 118.1 เนื่องจากการเหลื่อมการนำส่งเงินปันผลของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จากที่ประมาณการไว้ว่าจะนำส่งในเดือนมีนาคม 2556
อย่างไรก็ดี ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,574 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.3 เป็นผลจากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 6,380 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.5 ตามมูลค่าการนำเข้าที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในหมวดสินค้ารถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ หลังจากที่ได้มีการเร่งนำเข้าสินค้าในเดือนก่อนหน้า ประกอบกับเทศกาลตรุษจีน ที่ทำให้วันทำการของภาคเอกชนลดลง สอดคล้องกับอากรขาเข้าที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 172 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.0 ในขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,460 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.2 บ่งชี้อุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,001 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.9 และต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 5,406 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.9 เนื่องจากฐานที่สูงในปีที่แล้ว จากการขยายเวลายื่นแบบแสดงรายการ และชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย
2.ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555-กุมภาพันธ์ 2556) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 830,235 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 95,419 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22.4) ซึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลัง รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่สูงกว่าเป้าหมาย 61,658 ล้านบาท 4,317 ล้านบาท และ 40,221 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.0 ร้อยละ 13.7 และร้อยละ 81.9 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การคืนภาษีของกรมสรรพากร การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้ อบจ. และการกันเงินชดเชยการส่งออกสูงกว่าประมาณการรวม 10,777 ล้านบาท
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 586,106 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 37,175 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.3) โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ (1) ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 11,223 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 18.3) สาเหตุมาจากการบริโภคในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคภายในประเทศสูงกว่าเป้าหมาย 11,774 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.1 (2) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 11,010 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 15.3) สะท้อนถึงรายได้ภาคครัวเรือนที่ขยายตัวได้ดีตามการเติบโตของเศรษฐกิจ และ (3) ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 6,316 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 20.5) เนื่องจากผลประกอบการของภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวจากผลกระทบอุทกภัยในปีงบประมาณที่ผ่านมา
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 192,981 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 23,156 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 36.3) โดยภาษีรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 22,804 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 133.6) เป็นผลจากโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกเป็นสำคัญ ขณะที่ภาษียาสูบและภาษีเบียร์ จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 4,415 ล้านบาท และ 3,318 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.8 และร้อยละ 11.8 ตามลำดับ สืบเนื่องจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบ และสุราเมื่อเดือนสิงหาคม 2555
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 49,377 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,327 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.8) โดยอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 1,268 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.8) เป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เหล็กและเหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ และเงินบาทในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555-มกราคม 2555) ขยายตัวร้อยละ 22.8 และร้อยละ 20.8 ตามลำดับ
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 35,725 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,317 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.7 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 23.0) เนื่องจากโรงงานยาสูบ และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยนำส่งรายได้จากกำไรสุทธิ/เงินปันผลก่อนกำหนด (จากที่ประมาณการไว้ว่าจะนำส่งในเดือนมีนาคม 2556) จำนวน 3,331 ล้านบาท และ 1,800 ล้านบาท ตามลำดับ
2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 89,319 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 40,221 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 76.4) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้สัมปทานปิโตรเลียมจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 5,249 ล้านบาท สาเหตุมาจากปริมาณปิโตรเลียมที่ที่ขุดเจาะได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรายได้พิเศษ ได้แก่ (1) รายได้จากการประมูลให้ใช้คลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz จำนวน 20,843 ล้านบาท (2) การส่งคืนเงินที่กันไว้เพื่อชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับผู้ส่งออกสินค้า จำนวน 8,227 ล้านบาท (3) เงินชำระหนี้ค่าข้าวจากโครงการขายข้าวรัฐบาลรัสเซีย จำนวน 1,118 ล้านบาท (4) เงินรับคืนจากโครงการจัดจ้างผลิตเล่มหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Passport) ระยะที่ 1 จำนวน 913 ล้านบาท และ (5) การส่งคืนเงินบำรุงองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (TPBS) จำนวน 616 ล้านบาท สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บสูงกว่าเป้าหมาย 1,449 ล้านบาท จากการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเป็นสำคัญ
2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 110,560 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 9,324 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.2 ประกอบด้วย การคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 96,539 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 11,606 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.7 และการคืนภาษีอื่นๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคลภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 14,021 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,282 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.0
2.7 การจัดสรรรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด และเงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 6,608 ล้านบาท และ 6,105 ล้านบาท ตามลำดับ สูงกว่าประมาณการ 739 ล้านบาท และ 714 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.6 และร้อยละ 13.2 ตามลำดับ
