วธ.ล้อมคอกทำระบบบัญชีโบราณวัตถุ หลังล่องหนเพียบ

กรมศิลป์ แจง โบราณวัตถุพิพิธภัณฑ์ ชัยนาทมุนี หาย 59 ชิ้น เผย พระพิมพ์ สมัยสุโขทัย-อยุธยา-รัตนโกสินทร์ ล่องหนอื้อ ด้าน “สนธยา” สั่งล้อมคอกรื้อระบบบัญชีโบราณวัตถุใหม่ทั่วประเทศ ป้องการสูญหาย มั่นใจจับโจรขโมยได้เร็วๆ นี้

จากกรณีโบราณวัตถุที่เก็บรักษาไว้ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี จ.ชัยนาท จำนวน 52 รายการ 61 ชิ้น ซึ่งถือเป็นโบราณวัตถุแสดงสำคัญของจังหวัดชัยนาท และใกล้เคียง ถูกโจรกรรมไป ซึ่งความคืบหน้าของคดี และการติดตามโบราณวัตถุของชาติคืนนั้น วันนี้ (24 เม.ย.) นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานกรณีโบราณวัตถุถูกโจรกรรรมแล้ว และคงต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้ตรวจสอบ และสืบหาพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นทราบว่า ทางตำรวจได้เชิญเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดมาให้ปากคำ และข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์สาวไปถึงตัวคนร้ายแล้ว คาดว่า น่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

นายสนธยา กล่าวว่า รับทราบว่า ขณะนี้ ระบบการจัดเก็บทะเบียนโบราณวัตถุของพิพิธภัณฑสถานทั่วประเทศยังมีความล้าสมัย และการทำทะเบียนของแต่ละแห่งก็ไม่เหมือนกัน บางแห่งที่มีโบราณวัตถุจำนวนมาก การตรวจสอบโบราณวัตถุแต่ละชิ้นก็ทำได้ยาก ดังนั้น เร็วๆ นี้ ตนจะหารือกับนายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร เพื่อสังคายนาระบบการจัดเก็บทะเบียนเอกสารโบราณวัตถุของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศใหม่ โดยจะให้มีการจัดทำทะเบียนที่เหมือนกัน ที่สำคัญจะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้กับการจัดทำทะเบียนแทนการถ่ายภาพ และจดบันทึกเป็นเอกสาร โดยจะจัดทำเป็นฐานข้อมูล กำหนดหมวดหมู่ รหัสของโบราณวัตถุแต่ละชิ้นให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ

ด้าน นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายจรูญ นราคร รองอธิบดีกรมศิลปากร ที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกรณีดังกล่าวพร้อมกับทีมนิติกร รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจาก นางเสนห์ ประกอบทอง ภัณฑรักษ์ชำนาญการ หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี ว่า จากที่ก่อนหน้าที่ได้แจ้งว่ามีโบราณวัตถุหายไป 52 รายการ จำนวน 61 ชิ้น นั้น เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งกลับพบว่า มีโบราณวัตถุที่หายไป 50 รายการ จำนวน 59 ชิ้น ได้แก่ 1.งาช้าง ตั้งอยู่บนฐานไม้ จำนวน 2 กิ่ง ซึ่งเป็นสมัยรัตนโกสินทร์ ที่เจ้าอาวาสวัดโคกเข็ม จ.ชัยนาท นำมาฝากไว้ 2.กระปุกดินเผาเคลือบ ท้องป่องปากแคบเคลือบน้ำยาสีเขียวหม่น สมัยสุโขทัย 3.โถ พร้อมฝาเคลือบสีขาว เขียนลายสีรูปต้นไม้ดอกไม้ ฝีมือช่างจีน

4.ป้านน้ำชาจีน เคลือบสีน้ำตาลไหม้ พร้อมฝาถักลวดหุ้มขอบฝาและจุกหุ้มทองเหลืองมือจับเป็นทองเหลือง สลักหลุดหายไป 5.ชาม เคลือบสีขาว ลายรูปมังกร 5 สี ฝีมือช่างจีน 6.ถ้วยลายครามจีน เขียนลายมังกรดันเมฆ 7.จานเชิงลายสี ลายดอกไม้ ขอบปากหยัก สมัยรัตนโกสินทร์ จำนวน 8 ชิ้น 8.ถ้วยลายคราม เขียนรูปทิวทัศน์ ช่างฝีมือจีน จำนวน 3 ชิ้น 9.งาช้าง สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่บนฐานมีเงินหุ้มอยู่ตรงปลายฐาน จำนวน 2 กิ่ง 10.เหรียญกษาปณ์ ราคา 1 บาท ด้านหนึ่งมีพระพุทธรูป ร.5 และมีอักษรว่า “สมเด็จพระปรมินทร์มหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” อีกด้านมีตราแผ่นดินและมีอักษร “กรุงสยาม รัชกาลที่ 5” จำนวน 6 เหรียญ (ไม่มีห่วง 5 และ มีห่วง 1 เหรียญ) สมัยรัตนโกสินทร์ 11.เหรียญกษาปณ์ ราคา 1 บาท ด้านหนึ่งมีพระบรมรูป ร.6 และมีอักษรว่า “มหาวชิราวุธสยามมินทร์” อีกด้านหนึ่งเป็นรูปช้างเอราวัณและมีอักษรว่า “สยามรัฐหนึ่งบาท” มีตั้งแต่ พ.ศ.2457 ถึง 2460 จำนวน 3 เหรียญ สมัยรัตนโกสินทร์

12.ถ้วยเขียนสีลายเทพพนมนรสิงห์ พร้อมฝา จำนวน 4 ชิ้น สมัยรัตนโกสินทร์ 13.จานเชิงลายจีน สมัยอยุธยา 14.จานเชิงลายดอกไม้ สมัยรัตนโกสินทร์ 15.พระพิมพ์ปางลีลา กรุ วัดราชบูรณะ ปี 2500 สมัยอยุธยา 16.พระพิมพ์ปางลีลา อยู่ในกรอบ 17.พระพิมพ์ปางมารวิชัย ยอดธง 18.พระพิมพ์ดินเผา ปางไสยาสน์ สมัยอยุธยา 19.พระพิมพ์ปางยมกปาฏิหาริย์ 20.พระพิมพ์ (กรุสุโขทัย) พระร่วงหน้าโหนก สมัยสุโขทัย จำนวน 7 องค์ 21.พระพิมพ์ปางลีลา (พิมพ์ใหญ่) 22.พระพิมพ์ปางลีลา (พิมพ์เล็ก) จำนวน 2 องค์ 23.พระพิมพ์ปางลีลาปางมารวิชัย 24.พระพิมพ์เป็นพระพุทธรูปปางลีลา อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว กรอบสี่เหลี่ยม 25.พระพิมพ์ ทำเป็นพระพุทธรูปปืนยืนบนฐานบัวหงาย ในซุ้มเรือนแก้ว สมัยอยุธยา 26.พระพิมพ์ปางลีลา สมัยอยุธยา 27.พระพิมพ์ปางมารวิชัย ในกรอบสามเหลี่ยม สมัยอยุธยา 28.พระพิมพ์ปางสมาธิ ทรงสามเหลี่ยม สมัยอยุธยา จำนวน 3 องค์ และ 29.พระพิมพ์ปางลีลา (พระแพงนิ้ว) สมัยอยุธยา

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวฝากผู้ที่กำลังครอบครอง หรือกำลังจะรับซื้อโบราณวัตถุที่หายไป ว่า ขอให้นำมาโบราณวัตถุดังกล่าวมาคืนกับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ทั้งในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชัยนาทมุนี หรือที่กรมศิลปากร ส่วนกลาง ได้โดยตรง เพราะ อาจจะมีประชาชนถูกหลอกให้รับซื้อไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งนี้โบราณวัตถุดังกล่าว ถือเป็นสมบัติของชาวจังหวัดชัยนาท และเป็นมรดกชาติที่มีความสำคัญ และมีคุณค่าเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ จึงอยากขอความร่วมมือผู้รับซื้อไปให้นำมาคืน หรือหากประชาชนที่ทราบเบาะแสคนร้ายให้รีบแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมศิลปากรได้ทันที