กลุ่มผู้ต้องสงสัยคดีปล้นนาฬิกาหรูเรือนละ 8 หมื่นโวยถูก ตร.กักตัวสอบสวนนานกว่า 20 ชั่วโมง ยันความบริสุทธิ์ไม่ได้เอานาฬิกาลูกเสี่ยอ่างไป แต่ยอมรับว่ามีการทำร้ายร่างกายจริงเพราะลูกชาย “ชูวิทย์” เมาหูหาเรื่องชวนตี!
วันนี้ (19 เม.ย.) เวลา 10.00 น. ที่บริเวณหน้าห้องสืบสวน สน.ดินแดง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีญาติของผู้ต้องสงสัยในคดีร่วมกันปล้นทรัพย์นาฬิกายี่ห้อบูกาลี ราคา 8 หมื่นบาท ของนายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ ยืนอยู่หน้าห้องฝ่ายสืบสวนร่วม 20 คน โดยมีนางสุประวีณ์ สินสีโว อายุ 45 ปี มารดาของนายณรงค์ฤทธิ์ หรือดิว สินสีโว อายุ 20 ปี กล่าวว่า ภายหลังที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความว่าลูกชายถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหาว่าลูกชายของตนมีลักษณะตรงตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ จึงพาลูกเข้าพบตำรวจด้วยความบริสุทธิ์ใจตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ โดยลูกชายบอกว่ามีเรื่องกับนายต่อตระกูลที่ร้านข้าวมันไก่ ซึ่งลูกชายกับเพื่อนนั่งกินอยู่ร้านเดียวกัน นายต่อตระกูลอยู่ในอาการมึนเมา เข้ามาต่อว่าจนเกิดปากเสียงกันขึ้น และลูกชายยอมรับว่าได้ชกต่อยนายต่อตระกูลจริง แต่ไม่ได้เอานาฬิกาเรือนดังกล่าวไป พอข่าวออกว่าลูกเป็นหนึ่งในคนร้ายปล้นทรัพย์ก็ตกใจ จึงได้นำลูกชายมาให้การต่อตำรวจตั้งแต่เมื่อวานจนกระทั่งวันนี้ตำรวจก็ยังไม่ปล่อยตัวกลับ ตนก็ไม่ทราบว่าทางตำรวจจะเอาอย่างไร ไปสอบถามก็บอกเพียงว่าอยู่ระหว่างการสอบสวน
พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้ายในคดีนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ เพราะคดีนี้เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเป็นที่สนใจของประชาชน การดำเนินการจะต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนในทุกประเด็น ตำรวจต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ทำไปตามพยานหลักฐาน ไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องมาถูกดำเนินคดี ส่วนที่นำผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คนเหลืออีก 1 คน ได้ติดต่อผ่านญาติไปแล้วจะพาเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ทางเราไม่ได้ควบคุมตัว เพียงแค่เชิญมาสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่ายังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์แต่อย่างใด
ส่วนที่ห้องสืบสวน สน.ดินแดง มีกลุ่มผู้ต้องสงสัย 5 คนเข้าให้การต่อเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยนายณรงค์ฤทธิ์ หรือดิว สินสีโว อายุ 20 ปี นายอดุลย์วิทย์ หรือดุล เอกมหาชัย อายุ 20 ปี นายกฤษดา หรือไอซ์ นัยสดับ อายุ 26 ปี นายธนาชัย หรือเบ้ นัยสดับ อายุ 31 ปี พี่ชายของนายไอซ์ นายสุรศักดิ์ สมฤทธิ์ หรือแม็ก อายุ 20 ปี อยู่ที่ห้องสืบสวนของ สน.ดินแดง
นายณรงค์ฤทธิ์ หรือดิว ให้การชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวว่า ในคืนเกิดเหตุวันนั้นตนกับเพื่อนมีนายแม็ก นายดุล นายหลิน ไปเที่ยวสงกรานต์และมานั่งกินข้าวมันไก่ ภายในซอยรัชดาภิเษก 3 ที่เกิดเหตุ และระหว่างที่นั่งกินอยู่นั้นตนก็แซวนายดุล เพื่อนที่มาด้วยกันซึ่งมีอาการมึนเมาว่าเดินวนทำไมไม่มานั่ง แต่นายต่อตระกูลที่มีอาการมึนเมายืนอยู่ข้างโต๊ะและหันกลับมาว่าตน ตนก็งงเพราะไม่ได้ว่านายต่อตระกูล จนเป็นเหตุให้มีปากเสียงกันนายต่อตระกูลยังว่ากลุ่มตนอีกว่าเป็นกะเทยหรือเปล่า ตนเข้าไปบอกว่าตนไม่ได้ว่านายต่อตระกูล ตอนนั้นมีการผลักกันไปมา นายต่อตระกูลได้ยกมือไหว้ขอโทษ จนก็ไม่ติดใจให้กลับไป นายต่อตระกูลก็ไม่ยอมกลับยืนยกมือไห้วอยู่อย่างนั้นทำท่าลักษณะยียวน ตนจึงชกไป 2 ครั้ง ตอนนั้นเพื่อนชื่อเบ้ขับจักรยานยนต์ผ่านมาพอดีจึงเข้าไปห้ามก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านไป และขอยืนยันว่าพวกตนไม่ได้เอานาฬิกาของผู้เสียหายไป จนกระทั่งมาทราบข่าวจากทีวีและหนังสือพิมพ์ว่าพวกตนเป็นผู้ต้องหาปล้นทรัพย์ จึงเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่เย็นวานนี้เป็นเวลานานร่วม 20 ชั่วโมง
