xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์” หอบลูกโร่แจ้งความ ถูกแก๊งวัยรุ่นจี้ชิงทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย พานายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ บุตรชาย อายุ 17 ปี เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ดินแดง
“ชูวิทย์” หอบลูกโร่แจ้งความที่ สน.ดินแดง ระบุ ลูกชายถูกแก๊งวัยรุ่นรุมทำร้ายที่ ซ.ประชาสงเคราะห์ 2 และจี้เอานาฬิกาข้อมือยี่ห้อ บูการี่ มูลค่ากว่า 8 หมื่นบาทไป หลังบุตรชายกลับจากเล่นน้ำสงกรานต์ย่านอาร์ซีเอ ชี้มาแจ้งความในฐานะ “พ่อ” ของลูก-ปชช.คนธรรมดา จี้ ตร.เร่งล่าตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วภายใน 15.00 น.ของวันนี้ เนื่องจากพยานหลักฐานชัด ขู่ หากยังไม่สามารถจับกุมได้จะร้องผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไป

วันนี้ (18 เม.ย.) เวลา 11.00 น.ที่ สน.ดินแดง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย พานายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ บุตรชาย อายุ 17 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง พ.ต.ท.สุภัทร ทองส้ม พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานสอบสวน สน.ดินแดง และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมจากกรณีที่บุตรชายนายชูวิทย์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธมีดปล้นเอาทรัพย์สินไป เหตุเกิดภายในซอยประชาสงเคราะห์ 2 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ลูกชายคนเล็กซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และได้เดินทางกลับมาพักผ่อนที่บ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นเวลา 20 วัน จนกระทั่งช่วงกลางดึกของวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายได้มาขออนุญาตไปเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ที่ย่านอาร์ซีเอ ซึ่งตนก็ได้ห้ามปรามไม่ให้ไปแล้ว แต่ลูกชายไม่เชื่อและช่วงไปเที่ยวนั้นก็ไม่ได้นำรถส่วนตัวไป ซึ่งภายหลังจากเลิกเล่นน้ำก็เดินกลับบ้าน โดยระหว่างทางได้แวะกินข้าวมันไก่ที่ปากซอยรัชดาภิเษก 3 กับเพื่อนอีกหนึ่งคน เมื่อทานข้าวมันไก่เสร็จก็พากันเดินเข้าซอยเพื่อกลับบ้าน เพราะช่วงนั้นดึกมากไม่มีรถแท็กซี่ หรือรถ จยย.รับจ้าง และระหว่างทางนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ใช้รถจักรยานยนต์ขี่ตามมารุมทำร้ายด้วยการชกต่อยเข้าที่ศีรษะ 2 ครั้ง ก่อนจะใช้มีดจี้เอานาฬิกาข้อมือยี่ห้อ บูการี่ มูลค่าประมาณ 80,000 บาท ที่ตนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดไป ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ คนร้ายไม่ได้เอาไปด้วย เนื่องจากลูกชายกับเพื่อนอาศัยจังหวะวิ่งหลบหนีเอาตัวรอดมาได้

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุได้ให้ลูกน้องไปขอดูภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่หน้าปากซอย กับจุดที่เกิดเหตุก็มีภาพเหตุการณ์ที่บันทึกภาพไว้ได้ จากนั้นก็ได้มาแจ้งความที่ สน.ดินแดง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสาเหตุที่มาแจ้งความล่าช้า เพราะว่าเพิ่งหายตกใจ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบแฟ้มประวัติแล้ว พบผู้ต้องหาสงสัยเป็นวัยรุ่นชาย 2 คนที่ลูกชายยืนยัน ทั้งนี้ทราบเพียงชื่อเล่นว่า โต๊ด กับเบิร์ด เท่านั้น

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนเดินทางโรงพักมาในฐานะพ่อของลูก และฐานะประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ลูกชายถูกปล้นเหมือนผู้เสียหายคนอื่นๆ อีกเป็นร้อยเป็นพันคนที่ถูกจี้ถูกปล้นใจกลาง กทม.เช่นเดียวกัน จึงอยากให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วภายใน 15.00 น.ของวันนี้ เนื่องจากมีทั้งพยานหลักฐาน และสามารถชี้ตัวผู้ต้องสงสัยได้บางคนแล้ว หากยังไม่สามารถจับกุมได้ ตนก็จะไปร้องเรียนกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไป เชื่อว่าไม่ได้เป็นการกดดันตำรวจมากเกินไป เพราะตำรวจไทยเก่งอยู่แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง กล่าวว่า ขณะนี้กำลังสอบปากคำผู้เสียหายตามหลักสหวิชาชีพ เพื่อให้มีความชัดเจนถึงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับกลุ่มผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่พอจะทราบถึงเบาะแสแล้วว่าเป็นกลุ่มในพื้นที่ จึงได้ประสาน กก.ดส.บช.น.มาร่วมสืบสวนด้วย เนื่องจากเป็นคดีที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจและกำชับมา ซึ่งหลังจากนี้จะทำการตรวจภาพจากสอบกล้องวงจรปิดที่ได้มาว่า คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุนั้นมีใครบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายอยู่นั้น ได้มีกลุ่มชาวบ้านหลายคนเดินทางมารวมตัวกันที่ด้านข้างอาคาร สน.ดินแดง พร้อมทั้งร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า นายเบิร์ด (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ และถูกเชิญตัวมาซักถามที่สถานีตำรวจนั้น ได้ถูกญาติของผู้เสียหายตบและต่อยจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าเล็กน้อย จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว

ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่หน้าปากซอย กับจุดที่เกิดเหตุก็มีภาพเหตุการณ์ที่บันทึกภาพไว้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น