มือปืนโหดกระหน่ำยิง “เต้ มังกรดำ” ดับอนาถ (ชมคลิป)

นนทบุรี - กลุ่มมือปืนอุกอาจนั่งกระบะวีโก้สีดำ 4 ประตูบุกกระหน่ำยิงวัยรุ่น ฉายา “เต้ มังกรดำ” ตายคาวงเหล้า ก่อนหิ้วเพื่อนในวงเหล้าไปปล่อยตัวหน้าหมู่บ้านก่อนหลบหนีลอยนวล ตรวจสอบพบบัตรข้าราชการทหารปลอมในตัวผู้ตายถึง 3 ใบ!

ชมคลิป...



เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 8 เม.ย. ร.ต.ท.สัญชาติ สวัสดิ์ผล ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกยิงหน้าหมู่บ้านยิ่งรวยนิเวศน์ ถนนเลียบคลองประปา จากนั้นจึงรายงานให้ พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.โสวัชร์ ไชยสงคราม รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.มานะ เทียนเมืองปัก พงส.ผนง.สภ.ปากเกร็ด ให้รับทราบและได้ลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุจุดเกิดเหตุบริเวณทางเข้าหมู่บ้านยิ่งรวยนิเวศน์ หมู่ 6 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นายธงชัย รอดหลง หรือ “เต้ มังกรดำ” อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/35 ม.4 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีอาชีพค้าขาย พบบาดแผลถูกยิงบริเวณหน้าอกซ้ายจำนวน 1 แผล ญาติได้นำตัวนายเต้ส่งโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบถามนายหนึ่ง (นามสมมติ) ให้การว่า ตนและนายเต้พร้อมพวก 8 คนตั้งวงดื่มสุรากันบริเวณหน้าหมู่บ้าน จากนั้นเห็นรถกระบะวีโก้ 4 ประตู สีดำ มีคนนั่งกระบะท้ายจำนวน 2 คน พร้อมจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน มีผู้ซ้อนท้ายมาด้วย ได้ขับตามกันเข้าไปภายในหมู่บ้าน แล้วรถคันดังกล่าวก็ได้ขับมาจอดบริเวณที่กลุ่มตนนั่งอยู่ จากนั้นผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวได้ลงมาจากรถพร้อมถืออาวุธปืนในมือลงมาด้วย และพูดกับนายเต้ว่า “มึงขึ้นรถเดี๋ยวนี้” แต่นายเต้ตอบกลับไปว่าเรื่องอะไร จากนั้นชายคนดังกล่าวได้พยายามกระชากตัวนายเต้ขึ้นรถแต่นายเต้วิ่งหลบหนี หนึ่งในกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงนายเต้ไปหลายนัด ต่อมาคนร้ายได้จับตัวนายพีรวัฒน์ คงยืน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/71 ม.8 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มดื่มสุราขึ้นรถและหลบหนีไป ตนมารู้ภายหลังว่า คนร้ายได้ปล่อยตัวนายพีรวัฒน์ลงบริเวณหน้าหมู่บ้านพงษ์เพชรการบินไทย

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีรถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตู สีดำ ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและได้จับกุมตัวชายไปด้วย 1 คน หลังจากได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับรถคันดังกล่าวแต่ไร้วี่แวว จากนั้นได้นำตัวนายพีรวัฒน์มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง จากการตรวสอบยังพบว่าผู้ตายมีบัตรประจำตัวข้าราชการทหารจำนวน 3 ใบโดยระบุยศสิบเอก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดตามที่ระบุไว้ในบัตร ปรากฏว่าชื่อนายธงชัยนั้นไม่มี ซึ่งบัตรที่พบเป็นการปลอมแปลงขึ้นมาเองทั้งสิ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า กลุ่มคนร้ายและผู้ตายหน้าจะขัดผลประโยชน์ด้านธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากประวัติผู้ตายเคยโดนต้องโทษคดีจำหน่ายยาเสพติด และล่าสุดเพิ่งพ้นโทษในคดีเสพเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อหาเบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป