กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเอกสารที่ตรวจยึดได้จากบริษัทเก้าไว ของปริญญา ธรรมวัฒนะ บริหารกิจการตลาดยิ่งเจริญ หลังถูกพี่ร่วมตระกูลร้องขอว่าบริหารไม่โปร่งใส
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.แถลงข่าวกรณีการเปิดเอกสารต่างๆ ที่ยึดมาจากบริษัท เก้าไว จำกัด ภายในตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน กทม. หลังจากนางนฤมล มังกรพานิชย์ น้องสาวนายปริญญา ธรรมวัฒนะ เจ้าของตลาดยิ่งเจริญ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ก่อนหน้านี้ว่าบริษัทดังกล่าวซึ่งเป็นบริษัทลูกของตระกูล “ธรรมวัฒนะ” ที่นายปริญญา ธรรมวัฒนะ กับพวก รวม 3 คนบริหารงานอยู่ มีการดำเนินการไม่โปร่งใส โดยอาศัยการดำเนินการตาม พ.ร.บ.หุ้นส่วนบริษัท ต่อมากำลังตำรวจ บก.ป.50 นาย พร้อมหมายศาลได้เข้าตรวจค้นและยึดเอกสารทั้งหมด เพื่อนำมาตรวจสอบ ทั้งนี้ นางนฤมลพร้อมด้วยทนายความเดินทางมาสังเกตการณ์ด้วย ส่วนนายปริญญาส่งเพียงทนายความมาเท่านั้น
พล.ต.ต.นรบุญกล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ซึ่งให้ทาง บช.ก.ดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นและยึดมาจากบริษัทแห่งนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใส จึงมีการประสานให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเปิดเอกสาร พร้อมกันนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะถ่ายภาพและทำบันทึกเอาไว้ทุกขั้นตอน นอกจากนี้ ทาง บช.ก.ได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมา 1 ชุด โดยมี พ.ต.อ.ประสพโชค รอง ผบก.ป.เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อดำเนินการคัดแยกและตรวจสอบเอกสารต่างๆ ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า ภายหลังได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนแล้ว ตนได้ประสานให้ผู้แทนของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเปิดเอกสารต่างๆ เพื่อความโปร่งใสว่าไม่มีการนำเอกสารใดๆ เข้ามาหรือนำออกไป ส่วนพนักงานสอบสวนที่ร่วมดำเนินการก็มาจากหลายส่วน ทั้ง บก.ป., บก.ปคบ., บก.ปอศ. และ บก.ปอท. เบื้องต้นก็จะมีการคัดแยกว่ามีเอกสารใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับคดี ส่วนใดที่ไม่เกี่ยวข้องซึ่งจะนำส่งคืนให้กับเจ้าของ ขอยืนยันว่าทางตำรวจดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวด้วยว่า ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกระยะหนึ่งเนื่องจากเอกสารต่างๆ มีจำนวนมาก แต่จะพยายามเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนกรณที่ก่อนหน้านี้นายปริญญาได้เข้าร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าการเข้าตรวจค้นและยึดเอกสารจากบริษัทดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุนั้น เป็นสิทธิที่สามารถร้องเรียนได้ แต่ตนยืนยันว่าตำรวจดำเนินการตามกฎหมายเพราะมีผู้เข้าแจ้งความ และมีการขออนุมัติหมายค้น รวมทั้งได้เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ส่วนกรณีของเอกสารต่างๆ ซึ่งเป็นข้อมูลการดำเนินธุรกิจนั้นได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมตรวจสอบข้อมูลด้วยแล้ว จึงยืนยันว่าตำรวจดำเนินการอย่างรอบคอบ และให้ความเป็นธรรมในทุกขั้นตอน ส่วนจะมีข้อมูลใดที่เป็นเท็จ หรือมีข้อความใดในเอกสารต่างๆ เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่นั้นคงไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นข้อมูลทางการสอบสวน