สตช.ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาร้องทุกข์ดำเนินคดีในการจัดสร้างอาคารสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่ง ร่วมกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที ชี้ยังตรวจไม่พบการถูกฉ้อโกง
วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.เจตน์ มงคลหัตถี ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาร้องทุกข์ดำเนินคดีในการจัดสร้างอาคารสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่ง โดยประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที
พล.ต.อ.เจตน์ กล่าวภายหลัง ว่า วันนี้ได้นำเอกสารในการจัดซื้อจัดจ้างการทำทีโออาร์โครงการมาตรวจสอบ จากตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่มีในขณะนี้ เบื้องต้นยังไม่พบจุดใดที่เข้าข่ายว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกฉ้อโกงในกรณีนี้ ซึ่งคณะกรรมการได้ทำการตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนการร่างทีโออาร์ การประกวดราคา ทั้งนี้ในความเป็นจริงทุกขั้นตอนจะมีคณะกรรมการตรวจสอบคุณสบัติ ตรวจสอบรายละเอียดตั้งแต่แรกอย่างละเอียด ซึ่งผู้รับเหมาที่ได้ไปก็ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนอยู่แล้ว การตรวจสอบวันนี้ก็ยังไม่พบว่ามีการฉ้อโกงในช่วงของการทำทีโออาร์ ทำสัญญา ซึ่งการจะพิจารณาในประเด็นว่ามีการฉ้อโกงหรือไม่ ต้องดูข้อมูลหลักฐานตั้งแต่เริ่มต้น การจะฉ้อโกงจะต้องมีเจตนาตั้งแต่ต้นหรือไม่ จะมาจับว่าตอนหลังทิ้งงานแล้วถือว่าฉ้อโกงคงไม่ได้ ในการทางกฎหมายจะเข้าข่ายกล่าวหาฉ้อโกงเราต้องกลับไปดูแต่แรกว่ามีจุดใดส่อเจตนาหรือไม่ เหมือนการดูช้างจะดูที่หาง คลำเจอแต่หางไม่ได้หรอกต้องดูทั้งตัว โดยเบื้องต้นชุดของตนจะดูเพียงเอกสารหลักฐานยังไม่เชิญใครมาให้ข้อมูล
พล.ต.อ.เจตน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีบริษัทผิดสัญญา ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จหรือทิ้งงานก็ต้องดำเนินการฟ้องแพ่ง ซึ่งคณะทำงานของตนยังไม่ตรวจสอบครอบคลุมจุดนี้ ทั้งนี้จะขอข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่ามีหลักฐานอะไรที่ระบุว่ากรณีนี้เข้าข่ายว่าเป็นการฉ้อโกง เพื่อตำรวจจะได้มองเห็นในจุดที่ดีเอสไอเล็งเห็น ซึ่งเราเองอาจยังไม่เห็นก็ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อยังไม่พบว่ามีการฉ้อโกงการจะไปแจ้งข้อกล่าวโทษก็จะต้องมีความรับผิดชอบ ไม่กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน และยืนยันไม่ได้ช่วยเหลือใคร
ทั้งนี้ คาดว่าจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดเพราะอยู่ในความสนใจของสังคม ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.สั่งการให้ตนตรวจสอบตามข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่มี ไม่ได้ให้ธงไว้ว่าต้องสรุปออกมาอย่างไร หากท้ายที่สุดเมื่อพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วยังไม่พบว่าเข้าข่ายฉ้อโกง ตนก็จะสรุปไปอย่างนั้น ไม่ทำตามกระแสหรือแรงกดดันใด ทั้งนี้ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการชุดของตนจะประชุมเพื่อพิจารณาพยานหลักฐานอีกครั้งและรีบเสนอความคิดเห็นต่อ ผบ.ตร.ก่อนวันที่ 14 มีนาคม ที่จะครบกำหนดสัญญาการก่อสร้างแน่นอน