“บิ๊กอู๋” ลมออกหู อัด “ดีเอสไอ” ไร้มารยาท เรียกตนเองไปสอบในฐานะอะไร ฉุนอย่ามาทำเอาหน้าบนซากโรงพักของตน ชี้กลับไปดูพยานหลักฐานให้ดีเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะเรียกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ให้ปากคำ
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะเรียกไปให้ปากคำเรื่องปัญหาการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งว่า เรื่องนี้ดีเอสไอต้องทบทวนว่า ผบ.ตร.บางคนไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้เลย จึงต้องระมัดระวังเรื่องการเรียกที่ขาดหลักฐาน อย่างตนเองและ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร.เพิ่งมารับตำแหน่ง สัญญาก็ต่อโดยคู่สัญญา คือ ผู้บัญชาการส่งกำลังบำรุง การต่อสัญญาก็ทำภายใต้มติ ครม.ที่ให้เยียวยาผู้รับเหมา การบริหารก็มีคณะกรรมการ ฉะนั้นหากดีเอสไอจะเรียกใครต้องดู เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าดีเอสไอมีหนังสือมาถึงท่านหรือยัง พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ไม่มี ถ้าเรียกไปให้ข้อมูลต้องถามว่าในฐานะอะไร ตนเป็นผู้เสียหาย กระบวนการด้านกฎหมายก็มีผู้รับผิดชอบ ต้องดูละเอียดด้วย
เมื่อถามว่าไม่เห็นด้วยต่อการที่ดีเอสไอจะเรียกไปให้ข้อมูล พล.ต.อ.อดลย์กล่าวว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดูหลักฐานว่าใครมีอำนาจ เรียกในฐานะอะไร เป็นเรื่องของมารยาท คิดว่ามารยาทสำคัญมาก ทุกคนเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ จะเรียกลอยๆ มา ต้องดู หลักฐานต้องครบถึงจะเรียก เรียกเฉยๆ ว่าไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่าถ้ามีหนังสือมาอย่างเป็นทางการ ผบ.ตร.กล่าวว่า ถามว่าในฐานะอะไร ถ้าไปให้ข้อมูลเฉยๆ ก็ต้องพิจารณาดู แต่ถ้าหากว่าทางดีเอสไอมาขอพบเพื่อขอข้อมูลก็ยินดี
“ต้องเรียนว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อน จู่ๆ จะมาเชิญ แต่ละท่านก็เป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ไปในฐานะอะไร มีพยานหลักฐานครบหรือไม่ คิดว่าเป็นมารยาท อย่าเอาวิกฤตมาเหยียบคนอื่น เรื่องนี้หน่วยผมเสียหายอยู่แล้ว ผมก็กำลังแก้ปัญหาอยู่ ผมก็มีลูกแตกหัก อย่ามาเอาหน้าบนซากโรงพักของผม” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวด้วยท่าทีแข็งกร้าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่ดีเอสไอเมื่อไหร่ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า เรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เจตต์ มงคลหัตถี ที่ปรึกษา (สบ 10) รวบรวมข้อมูลหลักฐานทางคดีโดยให้ทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะแจ้งความร้องทุกข์ได้หลังวันที่ 14 มี.ค.
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ในวันที่ 15 ก.พ.ได้เรียกประชุมหัวหน้าโรงพักทั้ง 396 โรงพักเพื่อให้รายงานสภาพจริงประกอบเอกสารที่ทำมาก่อนหน้านี้ ตนเองพยายามให้หัวหน้าหน่วยใช้ภาระผู้นำปรับปรุงสถานที่ทำโรงพักให้มีห้อง ห้องควบคุมผู้ต้องหา ห้องวิทยุ ห้องสอบสวน โดยจะจัดงบประมาณ โรงพักที่ถูกถูกรื้อไปแล้วจำนวน 3 แสนบาท ที่ยังไม่ถูกรื้อ 1 แสนบาท และให้แข่งขันกันทำงานในการบริการประชาชนซึ่งจะมีมีรางวัลให้