ผบก.น.1 พร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบวิถีกระสุนคนร้ายยิงรถข่าว ASTV เพิ่มเติม ก่อนนำรถเก๋งมาจำลองเหตุการณ์ยิงข้ามฝั่งจากหน้าตรอกไก่แจ้ข้ามไปบริเวณจุดที่รถข่าวถูกยิง
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (7 ก.พ.) ที่บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รอง ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม และชุดสืบสวน ได้เดินทางมาตรวจสอบวิถีกระสุนปืนเพิ่มเติมภายหลังจากได้เดินทางไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและสื่อ สภาฯ ในคดียิงรถข่าว และสำนักงาน ASTV ช่วงเช้าวันนี้
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม พร้อมจำลองวิถีกระสุนจากด้านต่างในบริเวณโดยรอบเพื่อเชื่อมโยงความน่าจะเป็นให้มากที่สุดในการรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวคนร้าย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความคืบหน้ามากน้อยเพียงไร พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์กล่าวว่า ตามที่ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและสื่อไป เนื่องจากพยานหลักฐานที่ได้จากภาพบันทึกกล้องวงจรปิดไม่เพียงพอ วันนี้จึงได้เดินทางลงมาตรวจสอบวิถีกระสุนเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้หรือไม่ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์กล่าวว่า ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่อง ส่วนความชัดเจนต้องรอผลการรตรวจสอบวิถีกระสุนในวันนี้อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามอีกว่ามีเบาะแสหรือไม่ว่าผู้ลงมือก่อเหตุจะเป็นกลุ่มใด พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์กล่าวว่า เป็นไปได้หมด ต้องไปดูว่า ASTV รายงานข่าวกระทบกับใครบ้าง มีปัญหากับใครบ้าง เราดูหมด แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจได้นำรถยนต์ฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌน 0320 กรุงเทพมหานคร มาจอดย้อนศรบริเวณปากซอยตรอกเขียนนิวาสน์ หรือตรอกไก่แจ้ จากนั้นได้จำลองเหตุการณ์โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในรถบริเวณเบาะนั่งด้านหลังฝั่งซ้าย จากนั้นได้เปิดกระจกลดลงพร้อมจำลองวิถีกระสุนเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง โดยยิงแสงเลเซอร์ไปบริเวณฝั่งตรงข้ามด้านขอบฟุตปาธ จุดที่รถข่าวของ ASTV ผู้จัดการ จอดอยู่ในวันเกิดเหตุ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมสรุปอีกครั้งหนึ่ง
