ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนโวยคำสั่ง บช.น.ให้ตำรวจจราจรตั้งด่านตรวจทำรถติด แฉตำรวจจราจราบางนายใช้เป็นช่องทางรีดไถ
สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยทีเดียวภายหลังจากที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ออกคำสั่งห้ามตั้งด่านจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร (ว.43) และให้ใช้ใบเตือนแทนใบสั่งในข้อหาที่เป็นการกระทำผิดวินัยจราจรเล็กน้อยเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดไป
ช่วงนั้นประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนต่างสรรเสริญต่อคำสั่งของ ผบช.น.ที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อผูู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องประสบปัญหาการตั้งด่านของตำรวจจราจรในหลายพื้นที่ หลาย สน. ซึ่งมีอยู่หลายครั้งหลายคราด้วยกันในพื้นที่ต่อเนื่องบนถนนเส้นเดียวกัน แต่เป็นรอยต่อระหว่าง สน.เพิ่งเจอด่านตรวจไปแท้ๆ ขับรถมาอีกนิดเดียวก็ต้องเจอด่านตรวจของอีก สน.อยู่เป็นประจำหลายครั้งหลายครา ซึ่งโดยรวมแล้วของคำสั่งการยกเลิกการตั้งด่านนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่
แต่ก็เป็นดาบสองคม เพราะผู้ใช้รถใช้ถนนบางรายก็กลับใช้ช่องทางนี้ในการกระทำผิดวินัยการจราจรโดยในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีผู้กระทำผิดกฎจราจรเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะแซงในที่คับขันและเบียดขึ้นสะพาน ทำให้การจราจรติดขัดและมีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ดังนั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จึงออกคำสั่งให้กลับไปตั้งจุดตรวจอีกครั้ง และให้กวดขันวินัยจราจร ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2556 เป็นต้นไป
ล่าสุด พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ระบุว่าคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ (1 ก.พ. 56) ให้ทุก สน.ตั้งด่านเป็นประจำทุกวัน 3 ช่วง เวลาวันละ 1-2 ชั่วโมง คือ 10.00-14.00 น., 21.00-23.00 น. และให้ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ เวลา 01.00-03.00 น.
ทั้งนี้ การตั้งจุดตรวจต้องมีนายตำรวจระดับรองผู้กำกับการ หรือสารวัตรจราจรประจำอยู่ด้วย หากพบว่าการตั้งจุดตรวจจะส่งผลให้การจราจรติดขัด ให้ยกเลิกตั้งด่านทันที พร้อมกำชับให้เน้นการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎจราจรใน 17 ข้อหาหลัก คือ แข่งรถในที่สาธารณะ, ขับรถเร็ว, แซงรถในที่คับขัน, เมาแล้วขับ, ขับรถย้อนศร, ไม่สวมหมวกนิรภัย, จอดรถซ้อนคัน, ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, จอดรถในที่ห้ามจอด, ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ โดยให้ทุก สน.กวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นข้อหาเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ยังเป็นมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกด้วย
ภายหลังคำสั่งนี้ออกมาผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมากว่ามีตำรวจตั้งด่านในหลายพื้นที่ เกือบทุก สน.ในช่วงเวลาเร่งด่วนและใช้่คำพูดไม่สุภาพกับประชาชน ตลอดจนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร (บางนาย) รีดไถประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนจนสร้างปัญหาการจราจรบนถนนหลายเส้นทางติดขัดอย่างหนัก
ASTVผู้จัดการออนไลน์ ลงพื้นที่สำรวจในหลายพื้นที่พบมีการตั้งด่านตรวจในหลายพื้นที่จริงตามที่ได้รับการร้องเรียน โดยช่วงเช้าวันนี้บริเวณสี่แยกบางขุมพรหม หน้าวัดเอี่ยมวรนุช และบริเวณหน้าธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีตำรวจราจรกลางตั้งด่านตรวจจจับเช่นกัน โดยตรวจจับรถจักรยานยนต์ทุกคันที่วิ่งผ่าน แม้ว่ารถจักรยานยนต์ที่ขับมาตามระเบียบจราจร คือขับชิดซ้ายขอบทาง และมีอุปกรณ์ครบถ้วนก็ตามซึ่งส่งผลให้การจรานจรติดขัดเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่มีคำสั่งของ บช.น.ที่ให้ตั้งด่านได้การจราจรในหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครติดขัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกือบทุกพื้นที่ สน.บริเวณสี่แยกไฟแดงจะมีเจ้าหน้าตำรวจจราจรออกมาตั้งด่านเรียกตรวจจุดละ 3-4 คน โดยเรียกรถจักรยานยนต์ทุกคันที่วิ่งผ่านเมื่อประชาชนถามว่ามีนายตำรวจสัญญาบัตรกำกับดูแลหรือไม่ ก็จะอ้างว่ามีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรนั่งกำกับดูแลอยู่ในป้อมตำรวจ สร้างความเอือมระอาให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตำรวจจราจรบางนายปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้คำพูดไม่สุภาพกับประชาชน
นอกจากนี้ ในพื้นที่ สน.ธรรมศาลา บริเวณริมถนนพุทธมณฑลสาย 3 มักจะมีตำรวจจราจจรของ สน.ธรรมศาลา ออกมาตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจรเป็นประจำ โดยจะเรียกตรวจจับรถบรรทุกและรถจักรยานยนต์ทุกคันที่วิ่งผ่านจนสร้างปัญหาการจราจรบนถนนพุทธมณฑลให้ติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากด่านตรวจของ สน.ธรรมศาลามีการจับตรวจปัสสาวะด้วย ซึ่งต้องใช้เวลานานพอสมควร เมื่อมีการตรวจพบปัสสาวะมีสารปลอมปน (ฉี่ม่วง) ก็จะมีการพูดจาข่มขู่และรีดไถเงินจำนวนมากแลกกับการไม่ต้องถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายแดง (นามสมมุติ) ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างท่านหนึ่งที่ประสบปัญหาตำรวจจราจรตั้งด่านตรวจ เปิดเผยกับ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ว่าหากตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ก็ไม่ว่าอะไรแต่ส่วนใหญ่แล้วตำรวจจะอาศัยช่องทางในการตั้งด่านตรวจรีดไถเงินประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ส่วนใหญ่แล้วหากตนขับขี่ จยย.ก็จะขับชิดขอบทางซ้ายตามกฏหมายอยู่แล้วและอุปกรณ์รถก็ครบบถ้วนแต่ก็จะถูกตำรวจเรียกตรวจทุกครั้ง ซึ่งบางครั้งตนไม่ได้กระทำผิดอะไรเลยแต่ตำรวจก็จะหาเรื่องจับจนได้จึงต้องยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับการไม่ต้องได้รับใบสั่ง ซึ่งตำรวจจะบอกว่าจะต้องปรับเท่าโน้น เท่านี้นะ ถ้าจะ.....ก็แล้วแต่ ซึ่งมันหมายความว่าอย่างไรเราก็ต้องจ่ายเพื่อแลกกับการไม่ถูกจับ
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายแดงกล่าวว่า อยากให้ตำรวจพูดจากับประชาชนดีดี ไม่ใช่พูดกับประชาชนเหมือนนักโทษ บางทีก็ไม่ต้องตรวจจับรถทุกคันที่วิ่งผ่าน รถคันไหนอุปกรณ์ครบถ้วน ขับขี่ตามกฏจราจรก็ไม่น่าจะเรียกตรวจ น่าจะตั้งด่านตรวจจับให้เป็นเวลาและมีมาตการควบคุมการตั้งด่านตรวจมากกว่านี้ ไม่ใช่เปิดให้มีการตั้งด่านตรวจจับ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรบางนายอาศัยเป็นช่องทางหาเงินกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน.
รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลแจ้งว่าคำสั่งดังกล่าวออกมาภายหลัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. มีคำสั่งให้ยกเลิกการตั้งด่านตรวจจับผู้กระทำผิดวินัยจราจรในเวลากลางวัน ทำให้ตำรวจชั้นผู้น้อยในแต่ละ สน.ไม่พอใจเนื่องจากขาดรายได้ในการเลี้ยงดูครอบครัว ประกอบกับไม่มีรายได้เข้าหล่อเลี้ยงภาระกิจงานตำรวจในแต่ละ สน.ขาดแคลนไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของ สน.ทุกพื้นที่ จนต้องมีการประกาศยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในที่สุด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละ สน.ออกมาตั้งด่านกันอย่างถ้วนหน้าทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการจราจรติดขัดในหลายพื้นที่
หากท่านใดพบเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรประพฤติตนไม่เหมาะสม ใช้คำพูดไม่สุภาพ หรือถูกข่มขู่รีดไถ หรือ ร้องเรียนปัญหาต่างๆ ส่งข้อมูล (ควรมีคลิปวีดีโอ หรือ เสียงบันทึก) มาได้ที่ mgr_crime@yahoo.com, mgr_crime@hotmail.com
ASTV.ผู้จัดการออนไลน์ ยินดีตีแผ่เรื่องจริงเพื่อประชาชน.