xs
xsm
sm
md
lg

น.3 สั่งตำรวจจราจร บก.น.1-9 ทำยอดใบสั่งวันละ 100 ใบ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
รอง ผบช.น.สั่งตำรวจจราจรทุก สน.ใน บก.น.1-9 ทำยอดใบสั่งผิดกฎจราจร 5 ข้อหลักให้ได้วันละ 100 ใบ ทำหัวปิงปองตาลุกวาว! เร่งตั้งด่านจับดะทำตามยอดนายสั่งมา ย้ำ สน.ไหนไม่เข้าเป้าเตรียมทำหนังสือรายงาน ด้าน รอง ผบช.น.เต้นผางปัดไม่ได้สั่งตำรวจทำยอดใบสั่งเพียงแต่สั่งกำชับ ตร.กวดขันวินัยจราจร โยนบาปใส่สื่อเสนอข่าวไม่สร้างสรรค์ทั้งที่ ๆ มี ว.8 ทางวิทยุสื่อสารช่วงเช้าจริง

เมื่อเวลา 11.50 น.วันนี้ (12 ก.พ.) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.(รับผิดชอบงานจราจร) ได้ออกคำสั่งผ่านวิทยุสื่อสารตำรวจ (ว.8) สั่งการให้ตำรวจในสังกัด บก.น.1-9 ตั้งด่านกวดขันกวดขันวินัยจราจร (ว.43) ใน 5 ข้อหาหลัก ประกอบด้วย 1. ขับรถย้อนศร 2. ขับรถบนทางเท้า 3. จอดรถซ้อนคัน 4. แซงรถในที่คับขัน (ปาดเบียดเส้นทาง) 5. ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง อย่างเคร่งครัด

โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุก สน.ในพื้นที่ บก.น.1-9 ต้องทำยอดใบสั่งกวดขันวินัยจราจรให้ได้วันละ 100 ใบขึ้นไป โดยเน้นย้ำว่าหาก สน.ใดไม่สามารถทำได้ถึงต้องทำหนังสือชี้แจงมายัง พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังคำสั่งดังกล่าวออกมาจึงมีคำสั่งจากผู้กำกับทุกสถานีตำรวจนครบาลให้ตำรวจจราจรทำยอดใบสั่งให้ได้ตามเป้า 100 ใบเป็นอย่างต่ำ จึงทำให้ทุก สน.มีการตั้งด่านจับกุมอย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร (บางนาย) อาศัยจังหวะในคำสั่งดังกล่าวมาหากินกับผู้ใช้รถใช้ถนน เข้าทำนองว่า “หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก”

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ทางกองบังคับการตำรวจจราจรแจ้งว่า ขณะนี้มีประชาชนในกรุงเทพฯ บางส่วนได้กระทำผิดกฎจราจรและได้ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดและเกิดอุบัติเหตุจราจรขึ้นจำนวนมาก พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.(รับผิดชอบงานจราจร) จึงได้วางมาตรการและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในกรุงเทพมหานครทำการรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อลดอุบัติเหตุ ลดปัญหาจราจรที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำความผิดกฎหมายจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะการกวดขันวินัยจราจร 17 ข้อหาหลักซึ่งเป็นข้อหาที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดรวมทั้งการก่อความเดือดร้อนและก่ออันตรายให้กับประชาชนมากที่สุด

คือ 1. การแข่งรถในที่สาธารณะ 2. ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 3. ขับรถขณะเมาสุรา 4. ขับรถย้อนศร 5. ขับรถบนทางเท้า 6. ขับขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย 7. จอดรถซ้อนคัน 8. ขับรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 9. แซงรถในที่คับขัน 10. ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง 11. ขับรถขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 12. ควันดำ 13. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 14. ความผิดเกี่ยวกับอุปกรณ์และส่วนควบของรถ 15. จอดรถในที่ห้ามจอด 16. จอดรถบนทางเท้า 17. ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ โดยทั้งนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทำการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ รวมทั้งลดอุบัติเหตุจราจรที่เกิดจากการฝ่าฝืนและการกระทำผิดวินัยจราจรของประชาชนโดยส่วนรวม โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน และเทศกาลวันหยุดยาวหลายวันที่จะถึงนี้

ดังนั้นจึงได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกสถานี รวมทั้งตำรวจ บก.จร. ระดมกำลังในการรณรงค์วินัยจราจรให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน เน้นการกวดขันวินัยจราจร สร้างพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนนให้คนปฏิบัติตามเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั้งแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด โดยการเพิ่มความเข้มในการกวดขันจับกุม ใน 5 ข้อหาหลัก ระหว่างวันที่ 9-12 กุมภาพันธ์ 2556 ดังต่อไปนี้ คือ 1. ขับรถย้อนศร 2. ขับรถบนทางเท้า 3. จอดรถซ้อนคัน 4. แซงรถในที่คับขัน (ปาดเบียดเส้นทาง) 5. ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง

โดยจะมีการตรวจสอบผลการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกสถานีในการกวดขันวินัยจราจรทั้ง 5 ข้อหาหลักนี้ทุกวัน เพื่อนำมาประเมินผลในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแก้ไขปัญหาการจราจรและการลดอุบัติเหตุจราจรที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คำสั่งดังกล่าวออกมาเนื่องจากจะถึงฤดูกาลโยกย้ายตำรวจนครบาล (โผเล็ก) ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นช่องว่างให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผกก., สารวัตร จร., สวป., สว.สส. (บางนาย) สั่งให้ลูกน้องออกไปตั้งด่านหาเงินริมทางเพื่อนำเงินมาส่งส่วยให้กับนายตำรวจบางนาย เพื่อใช้ในการวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งด้วย

ต่อมาเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.ดูแลรับผิดชอบงานด้านจราจร กล่าวตอบโต้กรณีคำสั่งกวดขันวินัยจราจรโดยอ้างว่ามีคำสั่งจาก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ตั้งเป้าทำยอดใบสั่งวันละ 100 ใบทุกสถานีตำรวจ นั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง ตนไม่เคยมีคำสั่งในลักษณะดังกล่าวออกไป แต่เป็นเพียงการกวดขันวิขันวินัยจราจร โดยเฉพาะ 5 ข้อหาหลัก คือการขับรถย้อนศร การขับรถบนทางเท้า การจอดรถซ้อนคัน การแซงรถในที่คับขัน และ การฝ่าฝืนสัญญานไฟจราจร รวมถึงกวดขันผู้ที่ขับรถฝ่าฝืนกฏจราจรจนทำให้รถติดขัด ซึ่งตนจึงกำชับให้แต่ละสถานีตำรวจกวดขันตามปกติ ส่วนพื้นที่ใดที่มีการจับกุมจำนวนน้อย ก็เพียงเรียกมาสอบถามว่าไม่มีความผิดในพื้นที่หรือทางเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่เท่านั้น ซึ่งจากกระแสข่าวที่ออกไปถือว่าเป็นการดูถูกตนเองและทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมากเกินไป รวมถึงทำให้ประชาชนมองภาพตำรวจแบบมีอคติ ดังนั้นสื่อมวลชนควรวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ พร้อมวอนหากไม่เข้าใจให้ยกหูสอบถามเพื่อความชัดเจนก่อนนำเสนอข่าวออกไป

อย่างไรก็ตาม หากท่านใดพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาศัยคำสั่งดังกล่าวรีดไถประชาชน หรือยัดข้อหาให้ สามารถส่งหลักฐานพร้อม (คลิปวิดีโอ หรือ เสียงบันทึก) มาได้ที่ mgr_crime@yahoo.com,mgr_crime@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น