xs
xsm
sm
md
lg

หญิงไทยโร่แจ้งปวีณาให้ช่วยเหลือถูกหลอกค้ากามแอฟริกาใต้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี  ร่วมกับ กก.ดส.แถลงช่วยเหลือหญิงสาวไทยถูกลวงไปค้าประเวณีที่ประเทสแอฟริกาใต้
มูลนิธิปวีณา ร่วมกับ กก.ดส.แถลงข่าวการเข้าช่วยเหลือหญิงสาวชาวไทยที่ถูกล่อลวงไปค้าประเวณีที่ประเทศแอฟริกาใต้ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนให้ช่วยเหลือจึงประสานกงสุลให้เข้าช่วยจนสำเร็จสามารถกลับประเทศไทยได้

วันนี้ (30 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่โรงเรียนปวีณา หงสกุลการบริบาล นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แถลงข่าวกรณีช่วยเหลือหญิงไทยที่ถูกคนไทยด้วยกันหลอกไปค้ากามยังแอฟริกาใต้ ว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. พ.ต.ท.แมน เม่นแย้ม รอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ สว.กก.ดส พ.ต.ต.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว.กก.ดส ได้พา นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิ ว่า มีนายหน้ามาติดต่อไปทำงานที่ร้านนวด ประเทศแอฟริกาใต้ โดยดำเนินเรื่องวีซ่า พาสปอร์ตให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และจะได้ค่าตอบแทนในการทำงานสูงถึงชั่วโมงละ 1,200 บาท เมื่อเห็นว่ารายได้ดีประกอบกับมีความจำเป็น ทางครอบครัวจึงตกลงเดินทางไป แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ค้าประเวณี

นางสาวเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้รู้จักกับหญิงวัยกลางคนชื่อ นงค์ ที่เพื่อนแนะนำให้รู้จักและชักชวนไปทำงานร้านนวดที่ประเทศแอฟริกาใต้ บอกว่า รายได้ดี ตนเองอยากได้เงินมาเลี้ยงดูครอบครัว จึงตกลงไป แต่เมื่อไปถึง นางนงค์ บอกว่า ต้องทำงานบริการทางเพศด้วย ซึ่งตนไม่ยอมทำอยากจะกลับบ้าน แต่ทางพ่อเล้า ซึ่งเป็นชาวจีนอยู่ที่นั่นไม่ยอมให้กลับโดยบอกว่าต้องหาเงินมาใช้หนี้เป็นเงิน 2.3 แสนบาท ที่เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งตนก็ได้ติดต่อทางบ้าน ซึ่งฐานะยากจนต้องไปกู้ยืมเงินเพื่อมาไถ่ตัว ซึ่งระหว่างที่อยู่ที่นั่นเห็นผู้หญิงไทยจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์บำเรอกามชาวต่างชาติเพื่อใช้หนี้ ตอนที่เดินทางไปมี นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เดินทางไปพร้อมกัน และได้รู้จักกับ นางสาวซี (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ซึ่งอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว เมื่อพูดคุยกันจึงรู้ว่าได้รับการติดต่อจากนางนงค์เหมือนกัน และเมื่อทางบ้านโอนเงินมาให้เรียบร้อย ก็ได้รับการปล่อยตัวอยู่ที่นั่นประมาณ 5 วัน พอเพื่อนร่วมชะตากรรมทั้งสองเห็นว่าตนจะได้กลับบ้าน จึงได้ขอร้องว่าเมื่อถึงเมืองไทยแล้วหาทางช่วยเค้า 2 คนให้ได้กลับบ้านด้วย ตนรู้สึกเห็นใจ สงสารผู้หญิงด้วยกันมากอยากจะช่วยเพื่อนจึงได้เข้าขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิปวีณาฯ

ต่อมาเมื่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ รับทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้ประสานและพานางสาวเอ เข้าพบ นายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุล ทันที เพื่อให้ข้อมูลและหาทางช่วยเหลือผู้หญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อค้าประเวณีที่ประเทศแอฟริกาใต้ และอีกหลายประเทศ โดยมีที่อยู่ที่ถูกกักขังชัดเจน หลังการดำเนินการช่วยเหลือของนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ เพียงข้ามคืนกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานทูตไทยและตำรวจสากลเข้าช่วยเหลือทันที และสามารถช่วยออกมาได้ในวันเดียวก็ได้รับข่าวดีว่า นางสาวบี กับ นางสาวซี จะได้กลับบ้าน เมื่อทั้งสองเดินทางกลับถึงประเทศไทยได้เข้าพบนางปวีณา ทันทีเพื่อขอบคุณในการช่วยเหลือให้ได้กลับบ้านเหมือนได้ชีวิตใหม่

ด้าน นางสาวซี กล่าวว่า ตนได้รับการติดต่อจากนางนงค์ เช่นกัน ให้เดินทางไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย.เมื่อไปถึงก็ถูกบังคับให้ขายตัวตอนแรกก็ไม่ยอมทำ แต่สุดท้ายก็ต้องยอม เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ให้กินข้าว กินปลา ตนทนทำงานอยู่ได้ประมาณเดือนเศษ จึงได้ขอความช่วยเหลือจากทางสถานทูตไทยเพื่อช่วยให้ได้กลับบ้านแต่ได้รับการปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่มีงบประมาณตรงนี้ ถ้าช่วย 1 คนเดี๋ยวก็ต้องมาอีกหลายคน เมื่อฟังแล้วตนรู้สึกสิ้นหวังมาก พอคนคุมรู้ว่าตนพยายามจะหนีจึงได้ขายต่อไปยังอีกที่หนึ่งจนได้พบกับนางสาวเอและนางสาวบี และเมื่อรู้ว่านางสาวเอ จะได้กลับบ้านจึงขอร้องให้ช่วยเหลือด้วย

นอกจากนี้ ยังมี นางประไพ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี อาชีพทำไร่ ได้เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรีอีกรายว่า ลูกสาว ชื่อ น้องแอน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่แอฟริกาใต้เช่นกัน โดยเดินทางไปเมื่อวันที่ 26 ม.ค.อยากให้นางปวีณาช่วยพากลับบ้านด้วย นางประไพ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ลูกทำงานเสิร์ฟอยู่ที่พัทยา ไม่ทราบเรื่องที่ลูกจะเดินทางไปทำงาน แต่มารู้เมื่อลูกสาวโทร.มาหาว่ากำลังจะเดินทางไปแอฟริกาใต้กับเพื่อนรุ่นพี่ ไม่ต้องห่วงเมื่อไปถึงจะมีคนมารับ อีก 2 วันต่อมาลูกสาวโทรมาหาบอกว่าไปถึงแล้วถูกบังคับให้ขายตัว แต่ไม่อยากทำ อยากกลับบ้าน ตนเองไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กำลังแถลงข่าวอยู่นั้น น้องแอน ลูกสาวของนางประไพ ได้โทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของนางประไพ เพื่อขอความช่วยเหลือ ทาง นางปวีณา และเจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามข้อมูลของเมืองที่อยู่ รวมถึงสถานที่พักว่าอยู่จุดไหน มีลักษณะอย่างไร เบื้องต้นทราบว่าน้องแอนถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองโยฮันเนสเบิร์ก หลังจากได้รับข้อมูลจึงเตรียมประสานกับสถานทูตไทยและตำรวจสากลเพื่อเข้าช่วยเหลือน้องแอนต่อไป

หลังจากนั้น นางปวีณา ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. พ.ต.ท.แมน เม่นแย้ม รอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ สว.กก.ดส พ.ต.ต.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว.กก.ดส ร่วมสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อหาตัวการที่กระทำผิดเป็นนายหน้าจัดหาหญิงไทยพาไปค้าประเวณีมาดำเนินคดีต่อไป

“ฝากสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ ว่า ทุกวันนี้กระบวนการค้ามนุษย์เข้ามาอยู่ใกล้ผู้หญิงไทย และหลอกให้ไปค้าประเวณีเป็นจำนวนมาก การช่วยเหลืออาจจะช่วยไม่ได้ทุกราย ขอให้หญิงไทยอย่าไปหลงเชื่อใครง่ายๆ หรือเชื่อสิ่งที่เค้าสร้างฝันว่าทำงานจะได้เงินเยอะ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้หญิงไทยอย่าตกเป็น “เหยื่อ” หลังจากที่ช่วยเหลือมาแล้วทางมูลนิธิจะช่วยดูแล ฝึกอาชีพ หางานให้ทำ บางรายพ่อแม่กำลังป่วยหนัก ลูกยังเล็กมาก ฐานะยากจน เดือดร้อน ก็จะประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าดูแลช่วยเหลือต่อไป” นางปวีณา กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น