ศาลเยาวชนฯ ประชุมผู้พิพากษาสมทบทั่วประเทศ 1,700 คน เพื่อหาทางแก้ปัญหาการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน ทั้งคดีทางเพศ ชิงทรัพย์และยาเสพติด
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 ม.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถ.รัชดาภิเษก นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ได้เป็นประธานเปิดงานประชุมสัมมนาวิชาการผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศ ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 28-29 ม.ค. 2556 โดยมีนายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายจิรนิติ หะวานนท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวทั้ง 77 จังหวัด เข้าร่วมประชุม
อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากเด็กและเยาวชนในสังคมมีแนวโน้มสูงและรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฐานความผิดมีตั้งแต่คดีลหุโทษไปจนถึงระดับอุกฉกรรจ์ อาทิ คดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน ฉก ชิง วิ่งราว ความผิดต่อชีวิตและร่างกาย คดีทางเพศ คดียาเสพติด อาวุธปืนและวัตถุระเบิด ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างการดำเนินในกระบวนพิจารณาคดีในชั้นศาล ประมาณ 4,000 คน นอกจากนี้มีเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ยังไม่ส่งฟ้องศาลอีกไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนหญิงซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์รวมอยู่ด้วย สาเหตุสำคัญมาจากปัญหาครอบครัว ลุกลามต่อเป็นปัญหาสังคม ซึ่งมีแนวโน้มวิกฤติขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัว มีผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัว ร่วมเป็นผู้พิจารณาคดีพิพากษาด้วย ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 ซึ่งบัญญัติให้ศาลคำนึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชน ที่ควรจะได้รับการฝึกอบรมสั่งสอนให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีมากกว่าการลงโทษ
สำหรับผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวนั้นจะมาจากบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่นักกฎหมาย ซึ่งจะมองปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนผู้กระทำผิด เช่นเดียวกับการมองปัญหาของลูกหลาน เพื่อจะได้ร่วมกันหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขตามสภาพและความรู้สึกนึกคิดของบุคคลทั่วไป
ทั้งนี้ ศาลเยาวชนได้จัดให้มีศูนย์ให้คำปรึกษาและนำเพื่อแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด รวมไปถึงครอบครัวที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งยังจัดให้มีศูนย์ประนีประนอมคดีครอบครัว ซึ่งได้ดำเนินงานมาระยะหนึ่ง จึงได้จัดการประชุมผู้พิพากษาสมทบทั่วประเทศ กว่า 1,700 คนขึ้นมาเพื่อรับทราบแนวทางการทำงานและปัญหาต่างๆ รวมทั้งเตรียมวางแผนปรับแนวทางการดำเนินงานของศาลเยาวชน ให้ไม่เป็นเพียงหน่วยงานพิจารณาตัดสินคดีความเท่านั้น แต่จะเน้นการเป็นหน่วยงานที่เข้าไปแก้ปัญหาเยาวชนที่เกิดขึ้นทั้งระบบ โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยลดวิกฤตความรุนแรงที่สังคมเผชิญอยู่
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 ม.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถ.รัชดาภิเษก นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ได้เป็นประธานเปิดงานประชุมสัมมนาวิชาการผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศ ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 28-29 ม.ค. 2556 โดยมีนายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายจิรนิติ หะวานนท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวทั้ง 77 จังหวัด เข้าร่วมประชุม
อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากเด็กและเยาวชนในสังคมมีแนวโน้มสูงและรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฐานความผิดมีตั้งแต่คดีลหุโทษไปจนถึงระดับอุกฉกรรจ์ อาทิ คดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน ฉก ชิง วิ่งราว ความผิดต่อชีวิตและร่างกาย คดีทางเพศ คดียาเสพติด อาวุธปืนและวัตถุระเบิด ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างการดำเนินในกระบวนพิจารณาคดีในชั้นศาล ประมาณ 4,000 คน นอกจากนี้มีเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ยังไม่ส่งฟ้องศาลอีกไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนหญิงซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์รวมอยู่ด้วย สาเหตุสำคัญมาจากปัญหาครอบครัว ลุกลามต่อเป็นปัญหาสังคม ซึ่งมีแนวโน้มวิกฤติขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัว มีผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัว ร่วมเป็นผู้พิจารณาคดีพิพากษาด้วย ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 ซึ่งบัญญัติให้ศาลคำนึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชน ที่ควรจะได้รับการฝึกอบรมสั่งสอนให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีมากกว่าการลงโทษ
สำหรับผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวนั้นจะมาจากบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่นักกฎหมาย ซึ่งจะมองปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนผู้กระทำผิด เช่นเดียวกับการมองปัญหาของลูกหลาน เพื่อจะได้ร่วมกันหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขตามสภาพและความรู้สึกนึกคิดของบุคคลทั่วไป
ทั้งนี้ ศาลเยาวชนได้จัดให้มีศูนย์ให้คำปรึกษาและนำเพื่อแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด รวมไปถึงครอบครัวที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งยังจัดให้มีศูนย์ประนีประนอมคดีครอบครัว ซึ่งได้ดำเนินงานมาระยะหนึ่ง จึงได้จัดการประชุมผู้พิพากษาสมทบทั่วประเทศ กว่า 1,700 คนขึ้นมาเพื่อรับทราบแนวทางการทำงานและปัญหาต่างๆ รวมทั้งเตรียมวางแผนปรับแนวทางการดำเนินงานของศาลเยาวชน ให้ไม่เป็นเพียงหน่วยงานพิจารณาตัดสินคดีความเท่านั้น แต่จะเน้นการเป็นหน่วยงานที่เข้าไปแก้ปัญหาเยาวชนที่เกิดขึ้นทั้งระบบ โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยลดวิกฤตความรุนแรงที่สังคมเผชิญอยู่
