“เหลิม” พร้อมตำรวจจับมือ กสทช.เปิดช่องทางให้ ปชช.เอสเอ็มเอสแจ้งเหตุร้าย “ผบ.ตร.” เชื่อช่วยลดปัญหาอาชญากรรม
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.อ.อ.ธเนศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษา (สบ10) ร่วมกับ 6 บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้แก่ เอไอเอส ดีเทค ทรูมูฟ ทีโอที แคท บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด หรือ ดีพีซี ร่วมกันแถลงข่าวเปิดโครงการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายผ่าน เอสเอ็มเอส หมายเลข 191 โดยไม่คิดค่าบริการเพื่อเพิ่มช่องทางการแจ้งเหตุให้กับประชาชน
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันปัญหาความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและทวีความรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีไม่เพยงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน และยังไม่สามารถควบคุมปริมาณอาชญากรรมได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ จึงจำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปัจจุบันถือว่ายังได้รับความร่วมมือจากประชาชนน้อยมาก เพราะช่องทางการติดต่อสื่อสารยังไม่เพียงพอ ทำให้ขาดข้อมูลโดยเฉพาะข้อมูลของคนร้าย การจดจำรูปพรรณตำหนิของบุคคลต้องสงสัยหรือยานพาหนะ เพื่อเป็นการชี้ช่องทางไปสู่เบาะแสการจับกุมคนร้ายในที่สุด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตำรวจ และ กสทช.มีเป้าหมายที่สำคัญในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงได้ร่วมกันทำโครงการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายผ่านเอสเอ็มเอส หมายเลข 191โดยไม่คิดค่าบริการ เพื่อเป็นการขยายช่องทางการรับแจ้งเหตุ ให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และสอดคล้องกับพฤติกรรมการสื่อสารของประชาชนในปัจจุบัน ผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่
“เมื่อประชาชนประสบเหตุด่วนเหตุร้าย สามารถแจ้งเหตุ พร้อมระบุรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุให้ชัดเจนแล้วส่งเอสเอ็มเอสไปที่หมายเลข 191ทันที เมื่อข้อมูลถูกส่งไปยังฐานข้อมูลเอสเอ็มเอส 191 เจ้าหน้าที่รับเหตุของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำการวิเคราะห์และแจ้งไปยังตำรวจ 191 หรือสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้เคียง ออกไปทำหน้าที่ระงับเหตุและให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ด้าน พล.อ.อ.ธเนศ กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนมีการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วันนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วกว่า 75 ล้านเลขหมาย โครงการดังกล่าวจึงมีความเหมาะสมในการบริการประชาชน กสทช.จึงได้มอบทุนสนับสนุนโคงการจำนวน 500,000 บาท เพื่อใช้ในการเตรียมความพร้อมสำหรับระบบที่จะใช้รองรับการให้บริการประชาชน อย่างเป็นทางการในวันนี้ (18 ม.ค.)
ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เพิ่มขึ้นนอกจากโทรศัพท์ให้การแจ้งเบาะแสรวดเร็วขึ้น และจะใช้เป็นฐานข้อมูลในการป้องกันและปราบปรามเหตุรายโดยจะมีเจ้าหน้าที่นำข้อมูลที่ได้รับแจ้งมาวิเคราะห์ตรวจสอบก่อน ซึ่งขันตอนดังกล่าวจะทำอย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าตำรวจจะไปถึงที่เกิดเหตุได้ทันเวลา ทั้งนี้เรื่อวดังกล่าวยังถือเป็นเรื่องใหม่หลังจากเปิดดำเนินการไปแล้ว 3-4 เดือน จะมีการปรับระบบให้คล่องที่สุดโดยเฉพาะการรักษาข้อมูลของผู้แจ้งเหตุให้เป็นความลับมากทีสุด ส่วนเรื่องการร้องเรียนก็ให้แจงผ่านสายด่วน 1599 ในกรณีที่มีการแจ้งเท็จจะมีการดำเนินการลงโทษตามกฎหมายกับผู้แจ้งทันที
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าวก็เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ตระหนักถึงหน้าที่ของพลเมืองดี มีความเาใจต่อปัญหาอาชญากรรมและเข้ามามีส่วนร่วมในการ้ งกันอาชญากรรมของตำรวจ ร่วมเฝ้าระัง ดูแล แก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและสีงคมส่วนรวมตลอดจนมีการนำเสนอแนวคิดการทำงาน ในลักษณะร่วมแรงร่วมใจแก้ไขปัญหา อีกทัั้งยังเป็นการเสริมสร้างทักษะในการสังเกต จดจำ ตำหนิรูปพรรณคนร้าย ยานพาหนะและสิ่งแวดล้อมรอบตัว หรือพื้นที่เสียง ที่เป็นแหล่งมั่วสุมต่างๆ แล้วแจ้งเบาะแสเหตุด่วนเหตุร้ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านข้อความเอสเอ็มเอส 191 เพื่อให้ปัญหาภัยอาชญากรรมและภัยสังคมลดน้อยลง ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น